คุณรู้หรือไม่ว่า สครับผิวมีประโยชน์อย่างไร

สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมต้องสครับผิว และควรเลือกสครับหน้ายี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีคำตอบ หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องสครับผิว การสครับผิวมีประโยชน์อย่างไร รู้หรือไม่ว่าปัจจัยอย่างเช่นอายุ รวมทั้งสภาพผิวที่แห้งก้านนั้น อาจทำให้การผลัดเซลล์ผิวใหม่เป็นไปได้ยากขึ้น เมื่อเซลล์ผิวหนังที่แห้งตายแล้วไม่สามารถหลุดออกได้ง่าย จึงเกาะอยู่บนผิวทำให้ผิวหมองคล้ำดู หยาบกร้าน และรูขุมขนอุดตัน จึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ซึ่งการสครับผิวนั้นจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก รวมทั้งกำจัดเซลล์ผิวที่แห้งเสียให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น เผยให้เห็นผิวที่ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

รู้หรือไม่ว่าการสครับผิวนั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพ ควรเลือกสครับที่เหมาะสมกับผิวในแต่ละประเภท โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง มีการแนะนำวิธีการสครับผิว ดังต่อไปนี้

ผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย สำหรับคนที่มีปัญหาผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย หากเลือกสครับผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผิวหลุดลอกออกได้ง่าย บางคนเลวร้ายถึงขั้นที่ว่าผิวหนังอักเสบ ดังนั้น ควรเลือกสครับที่มีสูตรอ่อนโยนหรือมีสารสกัดมาจากธรรมชาติ นอกจากนั้นยังต้องหมั่นบำรุงผิวทุกครั้ง หลังจากสครับ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ผิวที่เกิดสิวง่าย ส่วนคนที่มีปัญหาสิว ควรเลือกสครับที่มีสูตรอ่อนโยนและป้องกันการเกิดสิวใหม่ นอกจากนั้น ยังต้องระวังการสครับผิวที่แรงมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรียได้ จึงต้องสครับผิวอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง

ผิวหมองคล้ำ คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ยิ่งต้องระมัดระวังในการสครับมากเป็นพิเศษ เพราะหากผิวเกิดอาการอักเสบ จนเกิดแผลตกสะเก็ดหรือจุดด่างดำต่างๆ ขึ้นจะส่งผลทำให้ผิวไม่สม่ำเสมอ และยากที่จะผิวจะกลับมาผิวเนียนสวยได้อีกเหมือนเดิม ดังนั้น สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ควรเลือกสครับที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้แก่ผิวและปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอกัน ที่สำคัญต้องสครับผิวอย่างเบามือและอ่อนโยนด้วย

หากสาวๆ ยังไม่รู้ว่าควรเลือกสครับหน้ายี่ห้อไหนดี JELLYS SNAIL CANDY SCRUB ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่น่าสนใจผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวในรูปแบบสครับ และมาร์คบำรุงผิวได้ในตัว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป ช่วยปรับสีผิวให้ดูขาวกระจ่างใสเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดปัญหาฝ้า กระ จุด ด่างดำต่างๆ ที่สำคัญยังควบคุมความมันได้อีกด้วย

มาต่อกันกับสูตรสครับหน้าที่ 6-10 ซึ่งคุณสามารถทำเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน เพราะวัตถุดิบหาไม่ยาก แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ซึ่งอาจจะมีวัตถุดิบแปลกๆ อยู่บ้าง แต่รับรองว่าช่วยให้หน้าเนียนใสได้เหมือนกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ

6.สครับผงถั่วเขียว ถั่วเขียวนอกจากมีคุณค่าทางสารอาหารแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอีกด้วย โดยช่วยทำความสะอาดผิว ลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ลดการอักเสบของสิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ซึ่งวิธีทำก็คือให้นำถั่วเขียวไปบดให้ละเอียดจนเป็นผง แล้วไปผสมกับน้ำเปล่า น้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ต จะเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ โดยผสมในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้วนำมาทาบนหน้า หากมีสิวอักเสบก็ไม่ต้องขัดหรือนวด ให้พอกทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก

7.สครับเกลือ เกลือนั้นสามารถนำมาขัดผิวได้ โดยควรเลือกใช้เกลือเม็ดเล็กละเอียด ไม่หยาบจนเกินไป เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้ใบหน้าระคายเคืองหรือเป็นรอย เกลือนั้นมีประโยชน์ เนื่องจากช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หน้าดูสดใสกว่าเดิม และยังทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย วิธีก็คือให้นำเกลือป่นมาผสมกับน้ำมะนาวและน้ำมันมะกอกให้เข้ากัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว จากนั้นนำมาสครับให้ทั่วใบหน้า ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

8.สครับขมิ้น ขมิ้นคือสมุนไพรไทยซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียจากสิว ช่วยให้ผิวเนียนใส ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าอีกด้วย วิธีทำคือนำผงขมิ้นมาผสมกับนมสด คนให้เข้ากัน แล้วนำไปทาบนใบหน้า จากนั้นขัดวนเบาๆ แล้วพอกทิ้งไว้อีกประมาณ 15-20 นาที แล้วค่อยล้างออก

9.สครับแอสไพริน ใครจะคิดว่ายาแอสไพรินที่ไว้กินแก้ปวดจะนำมาสครับหน้าได้ แต่หารู้ไม่ว่าแอสไพรินนั้นมีส่วนช่วยกำจัดสิว ผลัดเซลล์ผิว กระชับรูขุมขน และทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง เพียงนำยาแอสไพรินจำนวนประมาณ 5 เม็ดไปบดเป็นผงละเอียด แล้วนำไปผสมกับน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้าและต่อต้านแบคทีเรีย คนให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำมาขัดถูวนหน้าเบาๆ แล้วจึงล้างออก

10.สครับผงพิเศษ ผงพิเศษเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมายาวนานนับสิบๆ ปี ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และที่สำคัญราคาถูกมากๆ ซึ่งสรรพคุณที่โดดเด่นคือช่วยในการรักษาสิวนั่นเอง โดยเฉพาะสิวอักเสบ จัดการได้ดีนักเชียว โดยน้ำผงพิเศษมาผสมน้ำเปล่าหรือน้ำมะนาวก็ได้ คนให้เข้ากันจนกลายเป็นครีม จากนั้นนำมาขัดหน้าประมาณ 1-2 นาที แล้วพอกทิ้งไว้อีก 2-3 นาที จึงค่อยล้างออก

หากใครยังไม่รู้จะเลือกใช้ สครับหน้ายี่ห้อไหนดี ให้คุณนำสูตรและวิธีเหล่านี้ไปใช้ รับรองได้ว่าหน้าขาวกระจ่างใสแน่นอนค่ะ โดยทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง

รวม 10 สูตรสครับหน้าแบบง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน (ตอนที่ 1)

คำถามคาใจของใครหลายๆคน ที่กำลังจะสครับผิวหน้า

ช่วงนี้ปัญหามลภาวะทางอากาศในประเทศค่อนข้างมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของใครหลายๆคน  เมื่อต้องออกไปทำงานหรือไปเรียนเราเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะปากท้องและเกรดเฉลี่ยนั้นสำคัญยิ่งกว่าฝุ่นและมลพิษต่างๆรอบกาย เราจึงต้องจำใจยอมรับสภาวะที่เป็นพิษแบบนี้

เวลาผ่านไป หมดไปอีกหนึ่งวัน เมื่อกลับถึงบ้านหรือที่พัก ยามที่คุณส่องกระจก คุณคงแทบช็อกกับภาพที่เห็นบนกระจก ว่าผู้หญิงที่หัวฟู หน้าหมองคล้ำ มันเยิ้มคือใคร  และสิ่งหนึ่งที่คุณคิดตามมาคือ ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องทำอะไรบางอย่างกับหน้าโทรมๆของฉัน และสิ่งที่แก้ปัญหานี้ได้คือ การสครับผิวหน้า แต่ สครับหน้ายี่ห้อไหนดีนะ ที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา หลังจากที่ทำใจกับสภาพผิวหน้าที่ผ่านสงครามมลพิษในแต่ละวันมา เราต้องมาวิเคราะห์สภาพผิวหน้ากันก่อนว่า เรามีสภาพผิวหน้าเหมาะกับการสครับหรือไม่

ตอนนี้เป็นสิวสครับผิวได้หรือเปล่า

หากใครที่ตอนนี้มีสิวขึ้น คุณอาจจะต้องรอให้สิวยุบเสียก่อน เพื่อที่ไม่ให้การสครับผิวหน้าไปรบกวนสิวที่กำลังอักเสบอยู่ การที่ครับจะทำให้สิวเห่อและอักเสบมากขึ้น แต่ถ้าต้องการสครับจริงก็ควรสครับผิวหน้าอย่างเบามือมากที่สุด  เลือกใช้สครับเนื้อละเอียดและอ่อนโยน เพื่อที่จะได้ราะคายเคืองผิวหน้าและลดการอักเสบ เช่น สครับน้ำนม หรือโยเกิร์ต หรืออีกสครับที่ดีต่อผิวเป็นสิวคือ สครับยาแอสไพริน ที่จะช่วยในเรื่องของสิวอักเสบ ลองหาสูตรนี้กันได้ รับรองสิวยุบภายในเวลาข้ามคืน

ผิวมันควรสครับหน้าบ่อยๆดีไหม

การสครับผิวหน้านั้น เราสามารถทำได้1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หากบ่อยหว่านี้ก็ได้ แต่ผิวหน้าอาจจะบางและมีอาการแสบผิวหน้าบ้าง เวลาออกไปเจอแสงแดด  สำหรับสาวๆที่มีผิวหน้ามันและยังไม่รู้ว่า สครับหน้ายี่ห้อไหนดี ขอแนะนำว่าควรเลือกสครับที่มีส่วนผสมของมะนาว  กาแฟ  มะเขือเทศ หรือมะขาม  เป็นต้น แต่ควรหลีกเลี่ยงสครับที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้ผิวหน้ามีน้ำมันส่วนเกินมากเกินไป  ควรเป็นสครับเนื้อแห้งๆ ด้วยความที่สาวผิวมันใบหน้ามีความมันมาก สครับแห้งๆนี้จะทำให้ขจัดความมันบนใบหน้าได้ดีมากขึ้น

อีกทั้งขอแนะนำว่า สาวผิวมันที่มีรูขุมขนกว้างอาจจะต้องเลือกสครับเนื้อแห้งที่มีความละเอียดสักนิด เพื่อที่ไม่ให้รูขุมขนขยายกว้างไปจากเดิมที่สำคัญต้องสครับอย่างเบาๆมือด้วยนะ และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับดีๆสำหรับการสครับผิวหน้า เพื่อผิวขาวกระจ่าง สว่างสดใส เป็นเทคนิคง่ายๆที่ใครๆก็สามารถทำได้รับรองว่า ทำแล้วผิวหน้าจะดีขึ้นจนคุณสังเกตได้

แนะนำวิธีการทำสครับหน้าใช้เองได้ง่ายๆ จากบทความนี้

การสครับผิวหน้า เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าวิธีหนึ่ง ซึ่งจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า หรือความหมอกคล้ำ จากฝุ่น ควัน และมลภาวะที่ออกไปเผชิญหน้าทุกวันให้หลุดออก  ทำให้เกิดผิวใหม่และทำให้หน้ากระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ  อีกทั้งการสครับหน้ายังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้าได้อีกด้วย สำหรับสครับที่นำมาสครับหน้านั้นก็มีหลากหลายอย่างด้วยกัน หากใครยังมองหากตัวเลือกในการสครับหน้า ยังไม่รู้ว่าสครับหน้ายี่ห้อไหนดี เรามีสครับทีทำจากส่วนผสมต่างๆมาให้ลองเลือกใช้กัน มาดูกันเลย

กาแฟ สครับสูตรกาแฟ เป็นสูตรยอดฮิตที่สาวๆหลายคนใช้แล้วติดใจ วิธีทำก็แสนจะง่าย เพียงแค่สั่งซื้อกากกาแฟหอมๆมาสักหนึ่งถุง จากนั้นเติมนมจืด และน้ำผึ้งลงไปพอประมาณ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วทาหน้า ทิ้งไว้ 5-10 นาที หรือจนกว่ากากกาแฟจะแห้ง แล้วล้างออก คุณก็จะได้สัมผัสกับผิวหน้าที่กระจ่างใส เนียนนุ่ม

ขมิ้น สูตรสครับ ขมิ้นนี้ สีสันอาจจะฉูดฉาดไปสักนิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ หน้าใสๆ ไร้สิว หลายคนที่ใช้ก็ติดใจกันนักต่อนัก สูตรนี้อาจจะมีส่วนผสมเยอะเสียหน่อย เพียงแค่เพิ่มมะขามเปียก  นมสด และน้ำมะนาว  ด้วยส่วนผสมเหล่านี้มีสารสกัดจากธรรมชาติ อาจจะมีการจี้ดๆคันๆที่ผิวหน้าบ้างแต่ก็ปลอดภัย เพราะเป็นการขจัดเซลล์ผิวเก่าด้วยวิตามินซีจากธรรมชาติ

มะขามเปียก สูตรมะขามเปียก เป็นอีกสูตรที่เป็นอมตะมาก รองจาก ขมิ้นและไพร เป็นสูตรที่ใช้ได้ผลดีเยี่ยมอีกสูตรหนึ่ง และมีการดัดแปลงใส่ส่วนผสมต่างๆ เป็นสครับต่างๆได้อีกหลายสูตร  หากใครไม่รู้จะเลือกใช้สครับยี่ห้อไหนดี ลองใช้มะขากเปียก แช่น้ำอุ่น แล้วขย้ำจนเนื้อหลุดเป็นน้ำข้นๆ เอากากออกแล้วเติมนมจืดลงไปสัก 2 ช้อนชา จากนั้นทาหน้า พักไว้ 5-10 นาที ง่ายๆแค่นี้เอง

โยเกิร์ต อีกสูตรสครับยอดนิยม ที่ทำได้เองง่ายๆเพียงแค่มีโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติสักกระปุกหนึ่ง แช่ไว้ในตู้เย็นสักครู่ จากนั้นก็นำมาทาลงบนผิวหน้าได้เลย พอกไว้สัก 10-15นาที แล้วล้างออก คุณจะสัมผัสได้ถึงผิวหน้าที่นุ่มเด้ง และผิวดูสดชื่นขึ้น หากยังนึกไม่ออกว่าจะซื้อสครับหน้ายี่ห้อไหนดี ต้องลองสครับสูตรนี้ รับรองว่าไม่ต้องหาซื้อสครับแพงๆให้เสียดายตังค์อีกเลย

แตงกวา สูตรนี้เป็นสูตรที่ทำง่ายมากๆ สามารถทำได้เองที่บ้าน เป็นสูตรสครับโฮมเมด ที่เพียงแค่ ปั่นแตงกวาหะเอียดพอประมาณแล้วนำมาผสมกับน้ำตาลทราย  น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหอมระเหยมิ้นท์ หยดตามสัก 8-10 หยด เพียงเท่านี้ก็จะได้สครับแตงกวาไว้ใช้ ที่ทั้งหอมและทำให้ผิวสดชื่นด้วยแตงกวา

ถ้าหากเราสครับหน้าผิววิธี จากผิวดีจะกลายเป็นผิวพัง

การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสครับหน้ายี่ห้อไหนดีนั้น เป็นการขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างออกจากผิวอย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ที่เนียนใสยิ่งขึ้น แต่บางคนอาจจะสครับผิดวิธี ทำให้ผิวดีๆ กลายเป็นเสียได้ วันนี้เรามาดูกันว่าวิธีสครับแบบผิดๆ นั้นมีอะไรบ้าง และจะแก้ไขให้ถูกได้อย่างไร

1.สครับทั้งที่หน้ายังแห้ง การสครับเปล่าๆ โดยหน้าไม่เปียกน้ำจะทำให้เม็ดสครับไปบาดหน้าทำร้ายผิว ก่อนสครับจึงต้องล้างหน้าให้เปียกก่อน เพื่อใช้น้ำเป็นตัวช่วยในการหล่อลื่น ทั้งยังทำให้สครับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

2.เอาสครับตัวมาสครับหน้า บางคนคิดว่าสครับใช้แทนกันได้ ก็สครับเหมือนกันนี่นา แต่ผิดแล้วล่ะค่า เพราะสครับตัวนั้นมีความหยาบ เม็ดใหญ่ และแข็งมากกว่า การเอามาสครับหน้าก็คือการทำร้ายผิวดีๆ นี่เอง

3.สครับทั้งที่ผิวยังไม่สะอาด บางคนคิดว่าการสครับก็คือการทำความสะอาดผิวอย่างหนึ่ง จะล้างหน้าก่อนทำไม สครับไปเลยสิ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมหันต์ เพราะจะทำให้รูขุมขนอุดตันจากสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายใน

4.สครับหน้ามันทุกวัน สครับหน้ายี่ห้อไหนดีช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้เนียนใสขึ้น อย่างนี้ก็ต้องสครับมันทุกวันสิ หน้าจะได้ยิ่งเนียนๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะหากสครับมากเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจจะทำให้หน้าพังได้

5.สครับคือการขัดและถู สครับเหรอ ง่ายจะตาย แค่ขัดๆ ถูๆ แค่นี้สบายมาก แต่ระวังผิวดีๆ จะหายไปเพราะการสครับผิดวิธีนะคะ ทางที่ดีควรสครับด้วยการนวดหน้าอย่างเบามือ วนเป็นวงกลมเล็กๆ ให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก

6.สครับตรงที่ผิวมีปัญหา ผิวไม่ดีเหรอ สครับเข้าไปเลยสิ บางคนมีปัญหาผิว ซึ่งอาจเป็นตำหนิจนอยากกำจัด จึงเน้นสครับตรงบริเวณนั้นมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผิวถูกทำร้ายได้ เพราะบริเวณที่มีปัญหาผิวอยู่แล้วมักจะอ่อนแอและแพ้ง่าย

7.สครับแล้วไม่บำรุงผิว สครับเสร็จแล้ว ล้างน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนชุด นอนได้ ซะทีไหน เราต้องอย่าลืมบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์หรือสารให้ความชุ่มชื้นก่อน เพราะการสครับทำให้ผิวแห้งนั่นเอง

ไม่ว่าจะเลือกใช้สครับหน้ายี่ห้อไหนดี ก็อย่าสครับผิดวิธีกันนะคะ เพราะแทนที่จะได้ผิวสวยๆ เนียนใสไร้ที่ติ กลับกลายเป็นว่าได้ผิวแพ้ง่าย บอบบาง อ่อนแอมาซะนี่ ดังนั้นอย่าลืมปรับปรุงวิธีการใช้สครับให้ถูกต้องด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีของคุณนั่นเอง