YAKURUTO COLLAGEN ไม่อ้วนแถมผิวสวยใส
สวัสดีค่าทุกคนนน เปเองนะคะ เปมีคอลลาเจนตัวนึงอยากบอกต่อมากกก อยากให้ทุกคนได้ลอง เพราะเปลองกินแล้วมันปังมากเลยค่ะ บอกก่อนว่าส่วนตัวเปเป็นเป็นคนไม่ค่อยกินคอลลาเจนเลย
สวัสดีค่าทุกคนนน เปเองนะคะ เปมีคอลลาเจนตัวนึงอยากบอกต่อมากกก อยากให้ทุกคนได้ลอง เพราะเปลองกินแล้วมันปังมากเลยค่ะ บอกก่อนว่าส่วนตัวเปเป็นเป็นคนไม่ค่อยกินคอลลาเจนเลย
วันนี้ทีมงาน Jellys จะมาแนะนำและความรู้จักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน ยากุรุโตะ คอลลาเจน ซึ่งถ้าหลายๆ คนมีคำถามว่า คอลลาเจนตัวไหนดีที่สุด ? เราบอกได้เลยว่า ยากุรุโตะ คอลลาเจน เป็นหนึ่งในคอลลาเจนตัวที่่ดีที่สุด และเราจะมาแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมว่าทำไมเราถึงกล้าบอกเลยว่า เป็นคอลลาเจนตัวที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่คุณภาพระดับคอลลาเจนแบรนด์ดังๆ ของญี่ปุ่นได้เลย
ก่อนอื่น ๆ เราไปทำความรู้จักกับคอลลาเจนกันก่อนว่ามันคืออะไร ?
คอลลาเจน (Collagen) คือ มันคือโปรตีนที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลายๆ ชนิด ซึ่งมีคอลลาเจนในปริมาณที่มากที่สุด ที่ร่างกายต้องการ โดยเราจะพบคอลลาเจนมากในผิวหนัง ขน เส้นผม กระดูก เล็บ ข้อต่อ เส้นเอ็นต่างๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว ร่างกายจะสามารถที่จะสร้างคอลลาเจนได้เองอยู่แล้ว แต่ถามระบบการทำงานของร่างกายเอง เมื่ออายุมากขึ้น ตัวการผลิตคอลลาเจนในร่างกายของเราก็จะค่อยๆ ลดลง ทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนคอลาเจน
ซึ่งอันดับแรกเลย คือ ทำให้ผิวเราดูแห้งกร้าน เกิดการขึ้น หรือมีริ้วรอย เหี่ยวย่นต่างๆ เกิดอาการปวดตามข้อต่อ กระดูกต่างๆ เช่น ปวดหลัง ข้อเข่าเสื่อม มีภาวะการเกิดแผลที่แห้งช้า รวมไปถึงการขาดหลุดร่วงของเส้นผมด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ ทำให้สีของเส้นผมบางจุดค่อยๆ เสื่อมสภาพไป ทำให้เส้นผมที่เคยดกดำ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งก็จะสอดคล้องกับวัย หรือตัวเลขของอายุที่มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
คอลลาเจนแต่ละแบรนด์ที่ผลิตออกมาขาย เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
คอลลาเจนตัวไหนดีที่สุด ? จริงๆ แล้ว คอลลลาเจนที่ผลิตออกมาขาย เหมือนกันในเรื่องของส่วนประกอบหลัก ก็คือ ส่วนของตัวคอลลาเจน (ต้องเป็นคอลลาเจนแท้บริสุทธิ์ด้วยนะ) ส่วนนี้จะอยู่ที่การวิเคราะห์และพิจารณาเลือกของลูกค้าเองเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนประกอบอื่นๆ เป็นการใส่เพิ่มปรับปรุงแต่งเข้ามาเพื่อช่วยให้อาการหรือส่วนที่ร่างกายต้องการ ขาดหาย เติมเต็มส่วนต่างๆ นั้นกลับคืนไป เช่น วิตามิน C จากส้มแดง หรือวิตามิน E โยเกิร์ต รวมถึง สารสกัดย่อยต่างๆ เช่น เบอร์รี่ ผงนมเปรี้ยว หรือแม้แต่ผลไม้ต่างๆ ที่ช่วยเรื่องของการปรับฟื้นฟูสภาพผิวที่ดำคล้ำให้กลับมาสวยใสได้เหมือนเดิม
ยากุรุโตะ คอลลาเจน ตัวช่วยเรื่องผิว ให้คุณได้ผิวพรรณที่มีสุขภาพดีกลับคืน ?
สาวๆ หลายๆ คน มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวที่หมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส เกิดสิว รอยสิว ริ้วรอยต่างๆ หน้าโทรม ไม่เด้งและฉ่ำฟูเหมือนตอนสมัยเด็กๆ หรือช่วงวัยรุ่น ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่าอยากจะหาตัวช่วยที่เข้ามาช่วยปรับสภาพผิว ซึ่ง ยากุรุโตะ คอลลาเจน แบรนด์เจลลี่ ทางทีมงานที่วิจัยและคิดค้นพัฒนาคอลลาเจนตัวนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์และแก้ปัญหาสภาพผิวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามช่วงวัยอายุที่เปลี่ยนไป โดยเราจะเน้นส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
– BOOST SKIN CELLULAR LEVEL ส่วนประกอบตัวนี้จะช่วยเรื่อง ผิวที่หย่อนคล้อย ให้ผิวกลับมากระชับเต่งตึง ไร้ริ้วรวย ขาวกระจ่างใส
– WHITE AURA ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ เผยผิวขาวสว่างใส อมชมพู ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB
– SKIN HEALTHY ช่วยบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน เป็นเกราะป้องกันผิวไม่ให้ผิวถูกทำลายจากมลภาวะภายนอก
– PROTECT SKIN CELL ลดการอักเสบของเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเสมือนผิวเด็ก
นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ และไม่พูดถึงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น TRIPEPTIDE FISH COLLAGEN – คอลลาเจนไตรเปปไทด์ 80,000 mg., YOGURT POWDER – โยเกิร์ตผง, FERMENTED MILK FLAVOUR – ผงนมเปรี้ยว, ACEROLA CHERRY EXTRACT – สารสกัดอะเซโรล่าเชอร์รี่, L-GLUTATHIONE – แอลกลูต้าไธโอน, CITRUS SINENSIS EXTRACT – สารสกัดจากส้มสีแดง, L-CYSTEINE HYDROCHLORIDE – แอล-ซีสเทอีน ไฮโดรคลอไรด์, ZINC AMINO ACID CHELATE 20% – ซิงค์อะมิโนแอซิดคีเลต 20%, D-ALPHA-TOCOPHERYL ACID SUCCINATE – ดี-แอลฟา โทโคเฟอริล แอซิด ซัคซิเนต, COENZYME Q10 – โคเอนไซม์ คิวเท็น
ซึ่งในแต่ละตัวเดียวเราจะพาไปเจาะลึกกันสำหรับ ใครที่อาจจะกำลังต้องการคอลลาเจนญี่ปุ่น ตัวไหนดี ซึ่งคำตอบที่เราจะนำเสนอให้กับคุณก็คือ ยากุรุโตะ คอลลาเจน ในบทความบทต่อไป
มาดูกันต่อสำหรับวิธีการชงยากุรุโตะ: คอลลาเจน ดื่มอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์สำหรับผิวที่ดีที่สุดกัน
1.เตรียมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 120 มล.
2.ฉีกซอง เทลงแก้ว
3.คนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันที
วิธีรับประทาน : ชงผลิตภัณฑ์ 1 ซอง (10กรัม) กับน้ำธรรมดา หรือน้ำเย็น 120 มล. และดื่มน้ำตาม 1 แก้ว ดื่มก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน
สรุปว่า…ควรเลือก Collagen ตัวไหน สำหรับวันนี้
กล้าคอนเฟิร์มเลยว่า ยากุรุโตะ คือ คอลลาเจนตัวไหนดีที่สุด อีกตัวหนึ่ง เพราะชงดื่มที่ดื่มง่าย รสชาติอร่อย มีกลิ่นคล้ายนมเปรี้ยวยาคูลท์ ตัวผงคอลลาเจน ละลาายน้ำได้เร็ว ชงดื่มได้บ่อย ดื่มแล้วไม่อ้วน ราคาไม่แพง 1 กล่อง บรรจุ 10 ซอง ราคาเพียง 390 บาทเท่านั้น
หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่
Facebook : Jellys Thailand เจ้าของแบรนด์เจลลี่
Line@ : @JELLYS
เบอร์โทรศัพท์ : (+66) 094-5519522 (+66) 094-9252614
หลายๆ คน อาจจะเกิดคำถามว่า ถ้าอยากจะเลือกคอลลาเจนสักตัวทานดู จะเลือกแบบไหน ต้องเป็นคอลลาเจนที่มาจากประเทศอะไร หรือคอลลาเจนที่ดีที่สุด ตัวไหนดี คอลลาเจนญี่ปุ่น ตัวไหนดี ? จะดีที่สุดใช่ไหม ? วันนี้ทีมงาน Jellys Thailand เรามีคำตอบมาฝากเพื่อนๆ กัน
สำหรรับคอลลาเจน เรารู้กันดีอยู่แล้ว เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถผลิตได้ ขึ้นมาเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ข้อกระดูก เส้นผม เล็บ ให้ดูสวยงาม เปร่งปรั่ง สดใส ซึ่งถ้าด้วยอายุวัยที่มากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกาย ก็จะเริ่มลดกำลังการผลิตลงไป ผลิตได้น้อยลง ดังนั้นจึงมี การวิจัยทางการแทพย์ว่า ทำอย่างไร ให้คอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งต้องการอยู่ในทุกช่วงวัยของอายุ และตัดข้อจำกัดตรงนี้ออกไป ทำให้มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนจากแบรนด์ต่างๆ มากมายออกมาจำหน่ายเพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
คอลลาเจนญี่ปุ่นยี่ห้อไหนดี?
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ผลิตภัณฑ์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ หนึ่งในนั้นที่คนไทยเรานิยมเลือก็คือ คอลลาเจน แล้วคอลลาเจนญี่ปุ่นตัวไหนดี อันนี้จริงๆ ตอบไม่ยาก เพราะปัจจุบันมีอยู่หลายตัว ซึ่งก็จะมีทั้งแบบผงชงดื่ม และแบบเม็ด หรือจะเป็นแบบฉีด ซึ่งความยากอยู่ที่ตรงความปลอดภัย และการเลือกคลินิกความงามที่ไว้วางใจได้ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ว่าถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ไว ได้สภาพผิวขาวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ก็ต้องเลือกวิธีนี้ แต่เดียววันนี้เราจะมาดูวิธีการเพิ่มความขาว กระจ่างใส ให้ผิว รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องรอยสิว รอยดำ ความหมองคล้ำต่างๆ ให้ดีขึ้นได้ ด้วย คอลลาเจนญี่ปุ่น คุณภาพ ที่ตอบโจทย์คุณได้ทุกสภาพปัญหาผิว กับ ยากุรุโตะ คอลลาเจน
ยากุรุโตะ คอลลาเจน เป็นหนึ่งในคอลลาเจนญี่ปุ่น ที่ได้รับการพัฒนาและร่วมมือกันกับ Jellys Thailand ที่พัฒนาสูตรและส่วนประกอบต่างๆ ที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุดกับคนไทย และคนเอเชีย ซึ่งถามว่า ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเอง ก็กำลังได้รับความนิยมมากอยู่ในปัจจุบัน กำลังเป็นกระแส และวิธีการเสริมความงาม สร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ที่ต้องการแก้ไข ปรับปัญหาสภาพผิวต่างๆ ให้ดีขึ้น สวยขึ้นได้
ทำไม ยากุรุโตะ คอลลาเจน ถึงตอบโจทย์เรื่องสภาพผิวได้อย่างครอบคลุม ?
ถามว่าจะมีคอลลาเจนสักกี่ตัวที่ตอบโจทย์เรื่องสภาพผิวได้อย่างครอบคลุม เรากล้าพูดเลยว่า ยากุรุโตะ คอลลาเจน เป็นหนึ่งในคอลลาเจนตัวนั้น เพราะด้วยส่วนประกอบต่างๆที่เราคัดสรรออกมาให้ รวมกันมาจนเป็น ยากุรุโตะ คอลลาเจน นั้น มีส่วนประกอบสำคัญ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น TRIPEPTIDE FISH COLLAGEN – คอลลาเจนไตรเปปไทด์ มากถึง 80,000 mg. ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาคอลลาเจนประเภทเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีพวกส่วนประกอบต่างๆ ที่สำคัญ ๆ และขาดไม่ได้อย่าง L-GLUTATHIONE – แอลกลูต้าไธโอน ที่ช่วยเรื่องการปรับฟื้นฟูสภาพผิวที่หม่องคล้ำให้กระจายใสได้ แถมยังมี ACEROLA CHERRY EXTRACT – สารสกัดอะเซโรล่าเชอร์รี่ ที่ช่วยเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน และยังให้วิตามินซีสูงอีกด้วย อัดแน่นด้วย CITRUS SINENSIS EXTRACT – สารสกัดจากส้มสีแดง ที่ช่วยให้ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวได้อย่างดี และสารสกัด ส่วนผสมอื่นๆ อีกมากมาย
และหลายๆ คนอาจจะพบเจอกับการดื่มคอลลาเจนได้ยาก เนื่องจากรสชาติที่ไม่ถูกปาก เราจึงเข้าใจและใส่ใจเรื่องของรสชาติเป็นสำคัญอีกด้วย ยากุรุโตะ คอลลาเจน เป็นคอลลาเจนชนิดผงชงดื่ม ทานง่าย เพราะให้รสชาติเหมือนการทานโยเกิร์ตหรือยาคูลท์ ซึ่งก็พอเข้าใจและนึกถึงรสชาติกันได้ใช่ไหม ว่า เป็นรสชาติที่ไม่ว่าเด็กๆ หรือผู้ใหญ่คุ้นชินกันอยู่แล้ว
วิธีการชงดื่มยากุรุโตะ คอลลาเจน
เตรียมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 120 มล.
ฉีกซอง เทลงแก้ว
คนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันที
วิธีรับประทาน : ชงผลิตภัณฑ์ 1 ซอง (10กรัม) กับน้ำธรรมดา หรือน้ำเย็น 120 มล. และดื่มน้ำตาม 1 แก้ว ดื่มก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน
ถึงตอนนี้เพื่อนๆ ทุกคนที่มีคำถามในใจว่า คอลลาเจนญี่ปุ่น ตัวไหนดี คงจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหม ว่าหนึ่งคอลลาเจนญี่ปุ่นคุณภาพดีๆ ที่เหมาะกับผิวและร่างกายของคนไทยเรา ต้องเป็น เจลลี่ ยากุรุโตะ คอลลาเจนเท่านั้น ราคาเบาๆ คุณภาพเกินราคา หากคุณรับประทานอย่างต่อเนื่อง รับรองว่า ผลลัพธ์กับปัญหาผิวต่างๆ ที่มีอยู่จะหมดไปได้อย่างไม่ต้องกังวล
หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่
Facebook : Jellys Thailand เจ้าของแบรนด์เจลลี่
Line@ : @JELLYS
เบอร์โทรศัพท์ : (+66) 094-5519522 (+66) 094-9252614
เซรั่มเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาเรื่องรอยสิวและจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพราะได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้แก้ปัญหาเฉพาะจุด ซึ่งในเซรั่มจะมีส่วนผสมของสารประกอบที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน กรด สารต้านอนุมูลอิสระ และอื่นๆ ที่ทำให้การดูแลและฟื้นฟู แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเนื้อสัมผัสของเซรั่มลบรอยดำสิวจะมีความบางเบาและซึมซาบได้เร็ว ผิวเรียบเนียน จุดด่างดำและรอยสิวค่อยๆ ลดเลือน ขาวกระจ่างใสตามที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม การดูแลและใช้เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําจะไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าหากใช้ไม่ถูกวิธี ไปเรียนรู้เคล็ดลับการใช้เซรั่มให้เห็นผลและแก้ปัญหาเรื่องผิวของคุณได้อย่างรวดเร็วกัน
1.เลือกเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิว
เพื่อเกิดประสิทธิภาพและเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องรอยสิวและจุดด่างดำ แต่สภาพผิวของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ควรเลือกเซรั่มให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า ทั้งเรื่องส่วนผสมและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
2.ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง
ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดทุกครั้งก่อนใช้เซรั่ม เพราะสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวจะทำให้เนื้อของเซรั่มซึมซาบเข้าไปยังผิวได้ไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้น ล้างหน้าและทำความสะอาดให้เรียบร้อย
3.การใช้เซรั่มตอนผิวกำลังชุ่มชื้น
เพื่อให้การซึมซาบของเซรั่มเข้าสู่ผิวชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทาเซรั่มตอนผิวกำลังชุ่มชื้นหรือยังแห้งไม่สนิท ที่จะช่วยให้เนื้อเซรั่มเข้าไปภายในได้มากกว่าการใช้ต่อผิวแห้งถึง 10 เท่า เพราะฉะนั้น หลังจากล้างหน้าเสร็จ ควรรีบใช้เซรั่มทันที
4.ปริมาณการใช้เซรั่มลดรอยสิว
เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่เข้มข้น ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวในได้อย่างรวดเร็วมากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรูปแบบอื่นๆ เพราะฉะนั้น ใช้ในปริมาณที่พอดี เล็กน้อยแต่เห็นผลมาก เพื่อความคุ้มค่าและการใช้ในระยะยาวนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเคล็ดลับการใช้เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา ให้เห็นผลชัดเจน เรียกได้ว่าทำไม่ยากแถมยังช่วยให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย แค่เพียงต้องใช้ความต่อเนื่องในการทาเซรั่ม ปริมาณการใช้ที่พอดี การทำความสะอาดและล้างหน้าให้หมดจดก่อนทาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการเลือกใช้เซรั่มที่เหมาะสมกับสภาพผิว
สำหรับใบหน้าที่บอบบางของเราแล้ว ควรได้รับการดูแลและบำรุงอย่างดีจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการใช้ชีวิตประจำวันก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผิวหน้าด้วย อย่างเวลาไปไหนก็ควรจะพกร่ม สวมหมวก หรือทาครีมกันแดด เพราะแสงแดดและรังสียูวีอาจทำร้ายผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด แต่หากต้องการบำรุงผิวหน้ามากกว่าการปกป้อง แนะนำให้หาครีมบำรุงผิวสำหรับคนเป็นสิวมาใช้ รับรองว่าช่วยให้หน้าเนียนใสไร้สิวได้แน่นอน ส่วนจะเลือกครีมอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ
1.ผิวธรรมดา
สำหรับคนผิวธรรมดาสามารถสรรหาครีมบำรุงผิวหน้าได้ไม่ยากนัก เพราะมีใบหน้าที่พอดี ไม่แห้งไม่มันจนเกินไป ทั้งยังดูแลง่าย เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และเลือกครีมบำรุงผิวที่ผสมสารกันแดด เพียงเท่านี้ก็สามารถบำรุงพร้อมปกป้องผิวไปพร้อมกันได้แล้วค่ะ
2.ผิวแห้ง
สำหรับผิวแห้งเป็นผิวที่เกิดสิวได้ยาก แต่ก็ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นเช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนใบหน้า และไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้นและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
3.ผิวมัน
สำหรับคนผิวมันควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทั้งยังทำให้ความมันบนใบหน้าเพิ่มขึ้นไปอีก ทางที่ดีควรเลือกครีมบำรุงผิว ที่ช่วยในการดูแลผิวทั้งก่อน ระหว่าง และหลังใช้ให้ปัญหาสิวหมดไป ด้วยสารที่ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอุดตันของสิว และลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิวอีกด้วย
4.ผิวผสม
ผิวลักษณะแบบนี้อาจจะดูแลยากสักนิดหนึ่ง เพราะจะมีความมันบริเวณทีโซน คือบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง จึงต้องระวังไม่ให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันในบริเวณนี้ ส่วนบริเวณแก้มจะมีความแห้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย จึงต้องบำรุงให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยครีมที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์นั่นเอง
5.ผิวแพ้ง่าย
ผิวแพ้ง่ายคือผิวที่บอบบาง อาจจะเลือกหาครีมบำรุงผิวค่อนข้างยากอยู่สักหน่อย เพราะครีมนั้นจะต้องมีความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง โดยอาจจะทดลองป้ายครีมบางๆ บริเวณแขนพับดูก่อนก็ได้ แล้วทิ้งไว้สักครู่ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง หากไม่เกิดอาการแพ้ก็สามารถใช้ครีมตัวนั้นได้
โดยแต่ละคนมีลักษณะผิวที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยในการดูแลและบำรุงผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือครีมบำรุงผิวสำหรับคนเป็นสิวก็ตาม ต่างก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของผิวตนเอง