Archive for year: 2019

ใช้ผลิตภัณฑ์ สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ

สครับขัดผิวขาว เป็นตัวช่วยสำคัญในการทำความสะอาดผิว ที่จะผลัดผิวชั้นหนังที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำและตายแล้ว อันเนื่องมาจากปัจจัยด้านอายุ มลภาวะและอื่นๆ ให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ เพื่อที่จะแทนที่เซลล์ผิวเดิม ให้ผิวของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เกลี้ยงเกลา ขาวเรียบเนียนและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากเรียนรู้วิธีใช้สครับขัดผิวขาวที่ถูกต้องแล้ว การเลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับสภาพผิวก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้จะไม่ส่งผลกระทบและมีปัญหาต่อผิวของคุณ

 

1.รู้จักสภาพผิวของตนเอง

เพื่อให้การเลือกสครับขัดผิวขาวของคุณให้ตรงกับความต้องการและใช้ได้เห็นผลมากที่สุด ควรรู้จักสภาพผิวที่แท้จริงของตนเองว่า เป็นรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น การสครับผิวหน้าหรือผิวกาย ว่าคุณมีผิวมัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย หรือผิวเป็นสิว และอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถที่จะเลือกซื้อสครับในการบำรุงผิวกายให้ขาวสะอาดและเรียบเนียนได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่จะกระทบจากการเลือกผลิตภัณฑ์นั่นเอง

 

2.สครับขัดผิวขาวสูตรอ่อนโยน

ในการเลือกซื้อสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะเน้นสูตรอ่อนโยน เพื่อให้การดูแลและทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด และลดปัญหาที่จะกระทบกับผิวไปอีกหนึ่งขั้น สครับขัดผิวขาวที่มีความอ่อนโยน มีส่วนผสมที่บอบบางสามารถใช้กับผิวได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกมาอย่างอ่อนโยนและเรียบเนียน นอกจากจะทำความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

 

3.พิจารณาส่วนผสมของสครับขัดผิวขาว

สครับขัดผิวขาวแต่ละแบรนด์จะมีความแตกต่างกันที่ส่วนผสม มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกันตามแบบเฉพาะยี่ห้อ เพราะฉะนั้น การเลือกซื้อทุกครั้ง คุณจะต้องสังเกตส่วนผสมให้ดีว่ามีอะไรบ้าง มีคุณสมบัติและช่วยในเรื่องใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านออนไลน์หรือเลือกด้วยตนเองที่หน้าร้าน ก็ควรที่จะคัดสรรให้ดีทุกครั้ง อ่านฉลากให้ละเอียด เพื่อการเลือกซื้ออย่างคุณภาพนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 3 วิธีเลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถทำได้ไม่ยาก แต่ต้องใช้ความพิถีพิถันและคัดสรรให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ทั้งส่วนผสม ทั้งสูตรของสครับที่มีความอ่อนโยนและประสิทธิภาพในการดูแลสภาพผิว ไปจนถึงการเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีคุณภาพและการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการทำความสะอาดผิดที่ล้ำลึกและฟื้นฟูพร้อมบำรุงอย่างเต็มที่นั่นเอง

โลชั่นขาวเร็วที่สุด ใช้อย่างไรให้ได้ผล และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การมีผิวที่ขาวและสุขภาพดี เป็นหนึ่งในเป้าหมายเรื่องของความสวยของสาวๆ ที่อยากจะมีผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งการทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผิวของคุณได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการฟื้นฟูและบำรุงสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสและเปล่งปลั่ง แล้วเราควรจะทาโลชั่นขาวเร็วที่สุดใช้แบบไหนให้เห็นผล ไปดูคำแนะนำต่อไปนี้กัน

 

1.เว้นระยะห่างในการทาโลชั่น

เป็นเรื่องที่มีการเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ สำหรับการทาโลชั่นผิวขาวที่หลายคนมักจะทาพร้อมๆ กันเพื่อให้ประหยัดเวลา ให้ใช้ได้คุ้มค่า แต่ก็ต้องบอกเลยว่าครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นนั้นจะมีคุณสมบัติและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป การทาพร้อมๆ กันทีเดียวอาจจะทำให้คุณภาพของโลชั่นถูกลดลงหรือเกิดผลเสีย สารประกอบภายในโลชั่นมีการทำปฏิกิริยากัน เพราะฉะนั้น ควรที่จะทาครั้งละตัว เว้นระยะห่าง 15 – 20 นาที ก่อนจะค่อยทาอีกตัวลงซ้ำ เพื่อให้ครีมบำรุงสามารถที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

2.ควรทาโลชั่นก่อนนอนอย่างสม่ำเสมอ

ไม่ควรพลาดเด็ดขาด สำหรับการทาโลชั่นบำรุงผิวก่อนนอน เพื่อที่จะให้ผิวของคุณได้รับการฟื้นฟูและปรับสภาพให้ดียิ่งขึ้น เพราะในยามที่เรานอนหลับ ร่างกายจะทำการซ่อมแซมผิวในทุกส่วน เพราะฉะนั้น ในช่วงก่อนนอนจึงเป็นการทาทาโลชั่นขาวเร็วที่สุดที่จะช่วยบำรุงและเติมสารอาหารที่มีคุณภาพให้กับผิวพรรณ ช่วยให้ผิวสวยกระจ่างใส ดูชุ่มชื้นและมีชีวิตชีวา แถมยังลดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย

 

3.ทาโลชั่นทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ

ควรบำรุงผิวด้วยทาโลชั่นทันที หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผ่านการอาบน้ำหรือสภาพผิวที่แห้ง จะช่วยให้ผิวของคุณดูกระจ่างใสและนุ่มนวล ไม่มีริ้วรอยและความแห้งกร้าน ได้เติมสารอาหารให้กับผิวเพื่อฟื้นฟูให้ขาวอย่างเห็นผลเร็วที่สุด

 

4.ขัดขี้ไคลเป็นประจำเพื่อการใช้โลชั่นอย่างเห็นผล

เพื่อให้การใช้งานทาโลชั่นให้เนื้อครีมบำรุงซึบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและได้รับสารอาหารจากโลชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ ควรที่จะขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพหรือตายแล้ว ขัดขี้ไคลเป็นประจำ เพื่อให้ครีมบำรุงเข้าสู่ผิวภายในได้ดีที่สุด การที่มีชั้นขี้ไคลหรือเซลล์ผิวเก่าตกค้างจะทำให้ผิวรับสารอาหารไม่เต็มที่และเป็นการใช้โลชั่นอย่างสิ้นเปลือง

สำหรับใครที่อยากใช้ทาโลชั่นขาวเร็วที่สุดมีผิวที่เนียนกระจ่างใสและดูดีทุกสภาพผิว เคล็ดลับทั้ง 4 ข้อจะช่วยทำให้คุณใช้โลชั่นอย่างเห็นผลได้เร็วที่สุดแน่นอน

สครับหน้ายี่ห้อไหนดี คำถามนี้ อาจจะไม่มีความหมายอีกต่อไป

เคยไหม ? เวลาอยากได้สครับดี ๆ สักตัว แต่กลับต้องยืนงงเมื่อไปยืนอยู่ในร้านขายเครื่องสำอาง อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ใช่ ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ สครับหน้ายี่ห้อไหนดี ยิ่งคนที่มีปัญหาผิวอยู่แล้วยิ่งตัดสินใจยากไปใหญ่ จะดีกว่าไหมถ้าเราเปลี่ยนจากการสครับหน้าด้วยสครับที่มีขายทั่วไป มาเป็นการพอกหน้าด้วยผลไม้ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อการบำรุงผิว นอกจากจะลดการระคายเคืองจากสารเคมีแล้ว ยังทำให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีอีกด้วย

 

สูตรผิวสวยด้วยกล้วยหอม

กล้วยหอมมีวิตามินบี 3 ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและลดการอักเสบของสิว เพียงนำกล้วยหอมมาบดให้ละเอียด และนำไปพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก โพแทสเซียมในกล้วยหอมช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น การพอกหน้าด้วยกล้วยหอมเป็นประจำจะทำให้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 

สูตรเติมคอลลาเจนให้ผิวด้วยแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว คุณสามารถนำแอปเปิ้ลมาพอกหน้าโดยปอกเปลือกออกให้หมด จากนั้นนำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นจนละเอียด ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด นอกจากวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนแล้ว ยังป้องกันรังสียูวีได้ดีอีกด้วย การพอกหน้าด้วยแอปเปิ้ลบ่อย ๆ จะทำให้มีผิวกระจ่างใสขึ้น

 

สูตรหน้าใสเนียนนุ่มด้วยฟักทอง

เนื้อฟักทองเต็มไปด้วยวิตามินเอ บี ซี อีและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิวมากมาย เช่น แมงกานีสช่วยเรื่องผิวอักเสบจากแสงแดดและมลภาวะ แมกนีเซียมช่วยเพิ่มคอลลาเจนและเสริมเกราะป้องกันให้ผิว และธาตุเหล็กช่วยให้ผิวเรียบเนียน เพียงต้มฟักทองจนสุกแล้วนำมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำเล็กน้อย นวดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก แค่ทำครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าของคุณเนียนนุ่ม ผิวดีสุด ๆ ชนิดที่ว่าไม่ต้องมองหาว่าจะใช้ สครับหน้ายี่ห้อไหนดีอีกต่อไป

 

สูตรลดรอยสิว ผิวสุขภาพดีด้วยมะละกอสุก

มะละกอสุกไม่ได้อร่อยและช่วยในเรื่องการขับถ่ายเท่านั้น แต่ยังดีต่อผิวพรรณด้วย ถ้าอยากมีผิวเรียบเนียน ไม่หยาบกร้าน และไร้ริ้วรอย เพียงปั่นเนื้อมะละกอสุกให้ละเอียดแล้วนำมาพอกหน้า พอกทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออก เพียงเท่านี้วิตามินที่อยู่ในเนื้อมะละกอก็จะซึมเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวนุ่ม ผิวฟู ที่สำคัญจุดด่างดำและรอยสิวยังจางลงด้วย

หลังจากรู้จัก 4 สูตรพอกหน้าด้วยผลไม้กันไปแล้ว คำถามที่ว่าสครับหน้ายี่ห้อไหนดีคงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ในแต่ละวันเราต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ผิวต้องเผชิญทั้งแสงแดด สารเคมี และมลภาวะ การดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติจึงเป็นคำตอบที่ดี เพราะนอกจากจะหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง ยังให้ผลลัพธ์ได้ตรงใจที่สุดอีกด้วย

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว ตัวช่วยที่เราอยากจะให้คุณลองใช้ดู

หลายๆคนที่กำลังประสบกับปัญหาผิวเป็นสิวคงจะกลุ้มใจกันมากๆ จนไม่กล้าที่จะทำอะไรกับใบหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า การแต่งหน้า หรือแม้กระทั่งการใช้ครีม  เพราะกลัวว่าถ้าใช้ไปแล้วสิวจะยิ่งเห่อขึ้นมามากกว่าเดิม และสภาพใบหน้าอาจจะย่ำแย่ลงไปอีก เป็นเหตุให้ใบหน้าที่ไม่ได้ผ่านการดูแลเริ่มหมองคล้ำลงจนต้องได้เสาะแสวงหาครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวมาใช้  เพื่อกู้คืนใบหน้าให้กลับมาขาวใสดูดีขึ้นได้ดังเดิม

ปัญหาในเรื่องของสิวนั้นเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะแก้ไข เพียงแค่ต้องทำความเข้าใจในลักษณะของสิวที่เป็นก่อน ว่าเป็นสิวประเภทใด และเกิดจากกรณีใดได้บ้าง ซึ่งสิวโดยส่วนใหญ่ที่คนเป็นกันนั้นมักจะเกิดจากสาเหตุแบบเดียวกันคือในเรื่องของน้ำมันบนใบหน้าที่ผลิตมามากเกินไป ซึ่งสามารถหายได้หากมีความเข้าใจในลักษณะการเกิดของสิวของสิวแต่ละประเภทและหมั่นดูแลรักษาสมดุลของใบหน้าให้ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนหรือครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวก็สามารถช่วยลดการเกิดของสิวได้เยอะแล้ว ซึ่งสิวที่พบได้บ่อยๆนั้นจะมีอยู่  6 ชนิด ดังนี้

1. สิวหัวดำ มีลักษณะเป็นจุดดำๆอยู่ตามรูขุมขน จะพบได้มากบริเวณจมูก เกิดจากการที่รูขุมขนผลิตน้ำมันออกมาแล้วไปอุดตันบริเวณรูขุมขน เมื่อน้ำมันที่ผลิตออกมานั้นโดนอากาศจึงทำให้เกิดเป็นสีดำๆ
2. สิวหัวขาว มีลักษณะเป็นก้อนไตตามรูขุมขน จะไม่มีหัวโผล่ออกมา เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
3. สิวเสี้ยน มีลักษณะเป็นหัวแหลมๆอยู่บริเวณใบหน้าและจะพบได้มากบริเวณจมูก
4. สิวอักเสบแดง สิวแบบนี้เกิดจากการอักเสบของสิว จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงๆบนใบหน้า ไม่สามารถบีบได้เพราะไม่มีหัวโผล่ออกมา
5. สิวหัวหนอง สิวแบบนี้จะมีลักษณะเป็นหนองเด่นชัดอยู่บริเวณหัวสิว เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
6. สิวหัวช้าง เป็นสิวอีกชนิดหนึ่งที่ไม่มีหัว จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมา เมื่อบีบออกมาจะพบว่ามีหนองอยู่

จากทั้ง 6 ข้อนี้จะเห็นได้ว่า สิวส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่มีการผลิตน้ำมันออกมาในระหว่างวันมากเกินไปอาจจะจากการที่มีผิวหน้าแห้ง ซึ่งก็สามารถแก้ได้ง่ายๆโดยการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยให้ใบหน้าเกิดความสมดุลมากขึ้น ใบหน้าจะได้ผลิตน้ำมันบนใบหน้าน้อยลง

การจะมีใบหน้าที่แข็งแรงขาวใสถึงแม้ว่าจะเป็นสิวก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว เพียงใช้ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ใบหน้าเกิดความสมดุลอยู่ตลอดเวลา เท่านี้ก็สามารถมีหน้าขาวใสขึ้นได้แล้ว      

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ร่วมกับ ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

ปัจจุบันมีครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวออกมาวางขายเต็มไปหมด มีให้เลือกตั้งแต่ครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาสูงลิบ จนถึงครีมยี่ห้อใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับราคาที่ใครก็จับต้องได้ แต่ครีมบำรุงผิวที่ให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา หากแต่ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาสิวรังควานใจ เรามีวิธีเลือกใช้ครีมบำรุงมาฝากกัน

 

1.ใช้โทนเนอร์ทำความสะอาดหลังล้างหน้า เราใช้โทนเนอร์สำหรับทำความสะอาดผิวเพราะการล้างหน้าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ที่สำคัญการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ยังเป็นการปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไป สำหรับคนเป็นสิวควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน ช่วยลดความมัน และไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองต่อผิว

 

2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบา เช่น เอสเซ้นส์ เซรั่ม หรือเจล เพราะสิวเกิดจากกระบวนการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ส่งผลให้ผิวหนังอักเสบและเกิดสิวตามมา สกินแคร์ทั้ง 3 ประเภทมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย ช่วยลดการสัมผัสซึ่งเป็นสาเหตุของสิวอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวภายในได้อย่างล้ำลึก

 

3.เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เพราะวิตามินเอมีคุณสมบัติสำคัญคือลดการอักเสบของผิวและลดสิวอักเสบ รวมถึงมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวจากการทำลายของแสงแดด ด้วยเหตุนี้การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินเอจึงเหมาะกับคนเป็นสิวมาก ๆ เพราะนอกจากจะลดการอักเสบแล้วยังทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

 

4.เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม แอลกอฮอล์และน้ำหอมเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของเราเกิดการระคายเคือง เพราะทั้งแอลกอฮอล์และน้ำหอมเป็นสารเคมี หากคุณเป็นคนผิวแพ้ง่ายอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมีทั้งสองโดยเด็ดขาดเพื่อลดการอักเสบของสิว ลองหันไปใช้ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติจะดีกว่า

 

5..ใช้ครีมกันแดด สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือการทาครีมกันแดด เพราะแดดเมืองไทยร้อนแรงราวกับอยู่ในตู้อบ คงไม่ดีแน่ถ้าวันไหนลืมทาครีมกันแดด แล้วกลับถึงบ้านตอนเย็นต้องมานั่งปวดหัวกับการหาวิธีแก้ปัญหาผิวแห้ง ผิวไหม้ ผิวหมองคล้ำจากแสงแดดเพิ่มไปอีก ปัจจุบันมีครีมกันแดดให้เลือกมากมาย แต่ถ้าคุณไม่ปลื้มกับความเหนอะหนะของเนื้อครีมก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่อยู่ในรูปแบบอื่น ๆ ได้เช่นกัน ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรมีค่า SPF ตั้งแต่ 50 ขึ้นไปด้วยนะ

คำว่า “สิว” ได้ยินเบา ๆ ก็เจ็บ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็นสิว แต่เมื่อเลือกไม่ได้ก็ต้องหาวิธีรับมือกับมัน ที่สำคัญอย่าใจร้อน ทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและความต่อเนื่อง จะง่ายขึ้นไปอีกหากคุณเลือกใช้ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวที่เหมาะกับตัวคุณ เพียงแค่ตั้งใจบวกมีวินัยก็เตรียมโบกมือลา “บ๊ายบายปัญหาสิว” ได้เลย