กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

สวยหล่อท้าแดดกับ 5 เคล็ดลับเลือกครีม กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว ป้องกันผิวหมองคล้ำได้อย่างเติมประสิทธิภาพ

ครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งไอเท็มจำเป็นสำหรับคนที่ชอบอยู่นอกบ้าน แต่คนที่เป็นสิวอาจร้องยี้… เพราะกันแดดทั้งเหนียวทั้งเหนอะ ทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังจำเป็นอยู่ และนี่คือ 5 เคล็ดลับการเลือกครีม กันแดดสําหรับคนเป็นสิว ที่เราอยากบอกต่อ

ดูที่ข้างขวดว่าระบุว่า Oil-free หรือ Noncomedogenic ไว้หรือเปล่า

การที่ระบุว่า Oil-free นั้นหมายความว่าครีมกันแดดนั้น ๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงช่วยป้องกันการอุดตันเพิ่มเติม หรือถ้าจะให้ดีในขั้นสุด ก็ให้เลือกยี่ห้อที่ระบุว่า Noncomedogenic ไปเลย เพราะรับรองมาแล้วว่า ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน (Comedones) อย่างแน่นอน

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

เลือกกันแดดแบบเจลหรือสเปรย์ดีที่สุด

ถึงแม้ว่าครีมกันแดดบางยี่ห้อ จะเคลมว่ามีเนื้อครีมที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ แต่ถ้าเป็นไปได้ คนที่เป็นสิวหรือเกิดสิวได้ง่าย ควรเลือกกันแดดที่เป็นเจล (Gels) หรือแบบสเปรย์ (Sprays) จะได้หายห่วงเรื่องการอุดตันจากน้ำมันในเนื้อครีม

เลือก Broad Spectrum Sunscreen

กันแดดที่ระบุว่า Broad Spectrum จะปกป้องผิวของเราจากรังสียูวีเอ (UV-A) และยูวีบี (UV-B) หรือถ้าไม่ระบุว่า Broad Spectrum ก็ให้ดูว่ามีทั้งค่า SPF และค่า PA หรือเปล่า

เลือก SPF ที่เหมาะสม

อีกหนึ่งข้อสำคัญของการเลือกกันแดดสําหรับคนเป็นสิว คือ การเลือกค่า SPF ที่เหมาะสม การเลือก SPF ที่สูงเกินไป จะทำให้กันแดดมีเนื้อหนักเกินไป เกิดการอุดตันได้ง่าย ระเคืองผิว ทำให้หน้ามันเหนอะหนะ การเลือก SPF ที่เหมาะกับเรานั้น ให้ดูที่สีผิวและกิจกรรมที่เราทำเป็นหลัก ถ้าผิวไหม้แดดยาก หรือมีผิวคล้ำอยู่แล้ว ก็เลือก SPF ต่ำ ๆ เพียง 20 – 25 ก็พอแล้ว

ถึงแม้ว่าใช้ยารักษาสิวอยู่ ก็ทากันแดดได้

หลายคนที่กำลังใช้ยารักษาสิวอยู่ อาจไม่กล้าทากันแดด เพราะกลัวว่าจะใช้ด้วยกันไม่ได้ ยาตีกัน หรือกันแดดอาจไปยับยั้งการทำงานของยา แต่จริง ๆ แล้ว การใช้กันแดดยังเป็นเรื่องที่ต้องทำเสมอ โดยเฉพาะกับยากลุ่มกรดวิตามินเอ ที่ทำให้ผิวแพ้แสงได้ง่าย คำแนะนำก็คือ ให้ทายารักษาสิวให้เรียบร้อยก่อน ทิ้งไว้สัก 20 นาที แล้วค่อยทากันแดดทับลงไป

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เป็นเรื่องจำเป็นกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่กำลังเป็นสิวอยู่ การเลือกกันแดดสําหรับคนเป็นสิว อาจจะต้องพิถีพิถันกว่าผิวปกติเล็กน้อย แต่รับรองว่าถ้าลองทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิวรุนแรงแค่ไหน ก็เลือกกันแดดได้สบาย ๆ อยู่แล้ว

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

กันแดดสำหรับคนเป็นสิว เลือกอย่างไรให้ไม่อุดตันรูขุมขน

เราจะมีวิธีเลือก กันแดดสําหรับคนเป็นสิว ได้อย่างไรบ้าง ช่วยตอบที

สิว กับการแต่งหน้า และการทาครีมกันแดด แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปฏิปักษ์ กันอย่างสิ้นเชิง แต่อย่างหนึ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ แม้จะอยู่ในช่วงของการรักษาสิว แต่ต้องทากันแดด เพราะความหมองคล้ำมักจะตามมาอย่างที่เราคาดไม่ถึง และถ้าหากคุณกำลังมองหากันแดดสําหรับคนเป็นสิวเราก็มีข้อแนะนำสำหรับวิธีการเลือกหาครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว ดังนี้

 

เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันให้น้อยที่สุด

เพราะผิวของเรามีความมันมากเกินพอแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเป็นคนที่เป็นสิวง่าย ของเก่าก็ยังไม่หาย แล้วยังจะมีสิวใหม่เพิ่มมา อันนี้ไม่น่าจะเวิร์คเท่าไหร่ และสำหรับครีมกันแดด นั้นเราจะพบว่าส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความเบาบาง และมีความมันน้อย เพราะอย่างหนึ่งก็คือ คนที่เป็นสิวมักจะมีปัญหาหน้ามันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การใช้ครีมกันแดด หรือสกินแคร์ไม่ควรไปเพิ่มภาระให้ผิวอีก

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

มีส่วนผสมของสารป้องกันสิว

จะดีกว่ามาก หากคุณสามารถรับมือกับปัญหาสิวได้ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ทุกวันอย่างกันแดดสําหรับคนเป็นสิว ด้วยแล้ว ซึ่งนี่เองที่เราอยากให้คุณลองอ่านส่วนผสมของครีมกันแดดที่จะใช้ด้วยว่า สามารถป้องกันสิวได้ด้วยหรือไม่ เพราะหากป้องกันได้ เท่ากับว่า ตลอดเวลาที่คุณใช้ครีมกันแดดนั้นๆ สิว ก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปด้วย

 

สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย

เรื่องของความสะอาด เป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอยู่ด้วย เนื่องจากหากทำความสะอาดผิวหน้าไม่หมด โอกาสที่ผิวของคุณจะมีสิวผุดขึ้นมาอีกนั้น เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นกันแดดที่เหมาะกับคนเป็นสิว จึงจำเป็นที่จะต้องสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ครีมกันแดดทั่วไป และเพื่อเป็นการป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องในระหว่างวัน เพราะว่าครีมกันแดดของคุณอาจจะเกิดการลบเลือนไปได้ในระหว่างการทำงาน

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

การเลือกหากันแดดสําหรับคนเป็นสิวนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยาก ถ้าเพียงแต่คุณเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมใ ในราคาที่ไม่สูงเกินไป และที่สำคัญคือ กันแดดนั้น จำเป็นที่จะต้องมีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันผิวของคุณจากการเกิดสิวอย่างได้ผลด้วย ยิ่งเป็นผลดี โดยหนึ่งครีมกันแดดสำหรับคนที่มีปัญหาสิวนั้น เราขอแนะนำ PURE FACE SUNSCREEN CREAM UVA/UVB SPF50 PA+++ ซึ่งเป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิว เพราะนอกจากจะซึมเข้าสู่ผิว ไม่เหนอะหนะ ไม่อุดตันแล้ว ยังสามารถใช้แทนครีมรองพื้นได้ ทำให้คุณไม่ต้องใช้ครีมหลายตัว ในการแต่งหน้า ลดปัญหาการอุดตันที่อาจจะเกิดจากการทารองพื้นได้อีกด้วย

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วติดทนนาน แต่หน้าไม่เป็นสิว

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ที่ไม่เหนียวเนอะนะ ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่มีอันตราย

เมื่อเข้าสู่วัยแรกสาว นอกจากการดูแลผิวพรรณให้อ่อนเยาว์อยู่เสมอแล้ว การแต่งแต้มสีสันในผิวหน้า ก็เป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยเรียน หรือไม่ก็ตาม และนอกจากครีมกันแดดแล้ว สิ่งที่จะต้องมีในกระบวนการแต่งหน้า เพื่อเตรียมผิวหน้าของคุณให้พร้อมสำหรับการทาสิสันต่างๆ ลงไป ก็คือ ครีมรองพื้น ซึ่งสาวๆ มือใหม่หัดแต่งหน้าอาจจะมีมีความสงสัยว่า จะใช้ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ที่นอกจากจะติดทนนาน ช่วยให้ใบหน้าดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ คือ ต้องไม่อุดตันรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวอีกด้วย ซึ่งในหัวข้อนี้ เราได้หาคำตอบมาแล้ว

 

ครีมรองพื้นที่ดี ควรเข้ากับสีผิวของคุณ

เรื่องของสี เป็นเรื่องที่สาวไทยหลายคนชอบมองข้าม เพราะพวกเธอมองว่าการแต่งหน้าให้สวย คือหน้าต้องขาวเท่านั้น ซึ่งความจริง คือผิดมหันต์ เพราะการจะมีใบหน้าที่สวยใสนั้น คุณจำเป็นต้องเลือกให้ได้ว่าครีมรองพื้นที่มีสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย เหมาะกับสีผิวของคุณ หรือหากต้องการใช้รองพื้น จำพวก DD ครีม ก็จำเป็นต้องดูด้วยว่า หลังจากที่ทาลงไปบนผิวหน้าแล้ว ตัวรองพื้นสามารถปรับให้เข้ากับสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่วอก ไม่ลอย หรือไม่

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

 

กันน้ำ กันเหงื่อ คุณสมบัติ ของรองพื้นที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา

เด็กสาวหลายคนมักจะกลัวว่า การเลือกครีมรองพื้น ที่ทนทาน จะทำให้หน้าของเธอเกิดสิว หรือไม่ แต่อย่างหนึ่งที่คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ก็คือ อากาศของประเทศไทยมีลักษณะร้อนชื้น ตลอดทั้งปี นั่นก็หมายความว่า หากคุณเลือกใช้ครีมรองพื้นที่มีความทนทานไม่พอ ในระหว่างวันอาจจะเกิดการไหลเยิ้ม หลุดร่อน เป็นภาพที่ไม่ดีต่อผู้ที่พบเห็นได้

 

มีสารป้องกันแสงแดด

อย่าคิดว่า ทาครีมกันแดดแล้ว ก็จบกันไป ยิ่งคุณใช้เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดมากเท่าไหร่ โอกาสที่ผิวหน้าของคุณจะโดนแดดเผาก็น้อยลงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากครีมรองพื้น และแป้งที่ใช้อยู่มีสารป้องกันแสงแดดที่มากพอ ก็จะช่วยปกป้องผิวหน้าของคุณให้นานกว่าเดิมด้วย

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

การมองหาครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดีนั้น เรียกว่า เป็นคำถามยอดนิยมของสาวๆ มือใหม่หัดแต่งหน้าทีเดียว เพราะรองพื้นส่วนใหญ่นั้น ราคาค่อนข้างสูง และใช้ได้นาน หากเลือกผิดนั่นหมายความว่า สิผิวของคุณ ก็จะผิดเพี้ยนจากการแต่งหน้าได้ และสำหรับคนที่ยังไม่เป็นมือโปร คุณอาจจะเลือกครีมกันแดดที่มีสีเล็กน้อย แทนการทารองพื้น ก็ได้ เพื่อลดกระบวนการในการแต่งหน้า และช่วยให้รู้สึกผิวหน้าเบาสบายมากกว่าเดิม

ครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว

โปรดระวัง ครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว อาจทำให้เสี่ยงตายโดยไม่รู้ตัว

ครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว ที่มีผสมสารพวกนี้มากเกินไป ถือว่าอันตรายมาก

อาจกล่าวได้ว่าความขาวกระจ่างใสของผิวพรรณ เป็นตัวแทนของความสวยความงามของสาว ๆ รวมถึงหนุ่ม ๆ ในแถบเอเชีย ทำให้เครื่องสำอางกลุ่มไวท์เทนนิ่ง (Whitening) หรือครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว ขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่า แต่เราจะรู้กันหรือไม่ว่า ครีมผิวขาวที่ไม่มีมาตรฐานบางตัว อาจใส่สารอันตรายที่อาจทำให้ชีวิตพังโดยไม่รู้ตัว

ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)

ไฮโดรควิโนนเป็นสารที่ทำให้ผิวขาวได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง แต่มีอันตรายมาก ในหลาย ๆ ประเทศการใช้ไฮโดรควิโนนในความเข้มข้นไม่เกิน 2% ยังถือว่ายอมรับได้ แต่อาจต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหมอผิวหนังอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าความเข้มข้นมากกว่า 4% ขึ้นไป ก็จะทำให้เกิดอันตรายต่อผิวและร่างกายอย่างถาวร

สารสเตียรอยด์ (steroids)

สารสเตียรอยด์จะออกฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังหดตัวและบางลง เลือดจึงไหลเวียนไปที่ผิวหนังลดลง เราจึงเห็นผิวหนังของคนที่ใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์จะเป็นแบบขาวซีดจนเห็นเส้นเลือด ถ้าใช้ไปนาน ๆ จะทำให้ผิวบาง ผิวหนังอักเสบ เกิดสิวสเตียรอยด์ ความดันเลือดผิดปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง ปวดศีรษะ เป็นโรคซึมเศร้า และถ้าครีมถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมาก ๆ ตัวสเตียรอยด์จะเข้าไปกดการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อได้

ครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว

 

สารปรอท (Mercury)

สารปรอทเป็นโลหะหนักที่มีพิษมาก มักใส่มาในครีมที่ใช้แล้วหน้าขาวที่เห็นผลได้เร็วในไม่กี่วัน ครีมที่มีสารปรอทมักจะมีราคาถูกเกินความสมเหตุสมผล สารปรอทสามารถถูกดูดซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้ เมื่อได้รับไปนาน ๆ จะทำให้ไตของเราทำงานผิดปกติ ทำให้ไตวาย ระบบประสาทถูกทำลาย และถึงแก่ชีวิตในที่สุด

ไดอ็อกเซน (Dioxane)

ถึงแม้ว่าไดอ็อกเซนจะไม่ได้เป็นสารที่ทำให้ผิวขาว แต่ไดอ็อกเซนเป็นสารที่ใช้ในกระบวนการผลิตครีมและโลชั่น มีฤทธิ์ก่อมะเร็ง ถ้าสารนี้ปนเปื้อนอยู่ในครีม ก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ได้ในระยะยาว

อาการหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย ที่ต้องหมั่นสังเกตหลังใช้ครีมที่ทำให้ผิวขาว และถ้ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรหยุดใช้ทันที

  • ผื่นแดง คัน ลมพิษ
  • ผิวเปลี่ยนสีเข้มข้น หรือเกิดรอยด่างที่ผิว
  • ผิวบางจนเห็นเส้นเลือด
  • ผิวแพ้แสงอย่างมาก โดนแดดแล้วแสบผิว คัน
  • ผิวแตก แห้ง จนรู้สึกแสบ
  • ปวดศีรษะ รู้สึกชาปลายประสาท
  • น้ำหนักขึ้น ตัวบวมน้ำ

ครีมที่ใช้แล้วหน้าขาว

สุดท้ายเพื่อความปลอดภัย โปรดระลึกไว้เสมอว่าครีมหน้าขาวบางตัวอาจผสมสารที่มีอันตราย การเลือกซื้อทุกครั้งควรเลือกดูผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนเรียบร้อย ระบุส่วนประกอบครบถ้วน หรือถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด ก็ควรเลือกครีมที่ใช้แล้วหน้าขาวที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ มีรีวิวมากมาย

หน้าใสทําไง

หน้าใสทําไง นี่เลย 5 สุดยอดเคล็ดลับการดูแลผิวฉบับสาวเกาหลี

หน้าใสทําไง เหมือนกับสาวๆเกาหลี อยากรู้แล้วใช่ไหมละ ไปดูกันเลย

หน้าใสทําไง อาจเป็นคำถามง่าย ๆ แต่ก็ตอบยากเหมือนกัน เพราะแต่ละคนมีปัจจัยเรื่องผิวที่แตกต่างกัน วิธีดูแลผิวของแต่ละคนก็อาจต่างกันได้ แต่ถ้าเป็นวิธีหน้าใสแบบสาวเกาหลี เรารวบรวมมาให้แล้ว อยากให้ทุกคนลองเอาไปปรับใช้กันนะ

อบผิวด้วยไอน้ำเป็นประจำ

การอบผิวด้วยไอน้ำจะช่วยทำให้รูขุมขนเปิด ทำให้ละอองน้ำอุ่น ๆ เข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขนได้ ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ผิวซ่อมแซมได้เร็วขึ้น และระหว่างการอบไอน้ำ อาจใช้นิ้วมือแตะนวดเบา ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายผิวได้มากขึ้น สุดท้ายก็อย่าลืมปิดรูขุมขนด้วยการชโลมน้ำเย็น แค่นี้ผิวก็เรียบเนียนแล้ว

หน้าใสทําไง

 

ดูดซับสิ่งสกปรกบนผิวด้วยมาส์กชาโคล

มาส์กชาโคล (Charcoal Mask) เป็นมาส์กหน้าที่มีรูพรุนเล็ก ๆ อยู่จำนวนมาก มีคุณสมบัติช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนผิวหน้า หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง หลังการมาส์กหน้า ถ้ารู้สึกว่าผิวแห้งเกินไป ก็อย่าลืมใช้ครีมบำรุง เพื่อผิวที่กระจ่างใสยิ่งขึ้น

หน้าใสทําไง

 

Essence เคล็ดลับหน้าใสของคนเกาหลี

เอสเซนส์ (Essence) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม “น้ำตบ” เป็นเครื่องประทินผิว ที่แทบจะเป็นเอกลักษณ์แห่งการดูแลผิวฉบับเกาหลี ซึ่งเอสเซนส์ก็จะมีความคล้ายกับเซรั่ม (Serum) เพียงแต่เนื้อครีมจะมีความเบามากกว่า เข้มข้นน้อยกว่า มักใช้หลังโทนเนอร์ (Toner) และเมื่อทาเอสเซนส์เสร็จแล้ว ก็อาจจะบำรุงเพิ่มเติมด้วยเซรั่มอีกก็ได้ รู้งี้แล้วก็อย่าลืมหาน้ำตบเกาหลีมาดูแลผิวกันนะ

หน้าใสทําไง

 

ดื่มชาข้าวบาร์เลย์เป็นประจำ

หลายครั้งที่เราถามคนเกาหลีว่าหน้าใสทําไง บางคนอาจตอบกลับมาว่า ให้ดื่มชาจากข้าวบาร์เลย์เป็นประจำ อย่าเพิ่งงงกันหล่ะ เพราะชาข้าวบาร์เลย์มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้ผิวใสขึ้น และการดื่มชาร้อน ๆ ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในร่างกาย มิน่าสาวเกาหลีถึงมีผิวใสอมชมพู

หน้าใสทําไง

 

ขัดผิวด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ที่แช่ในน้ำอุ่น

เคล็ดลับนี้ก็คล้าย ๆ กับการนวดหน้าในขณะที่อบผิวด้วยไอน้ำ เพียงแต่ใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ สะอาด ๆ มาแช่ในน้ำร้อนพอประมาณ ทิ้งไว้สักครู่ แล้วนำมาขัดผิวหน้าเบา ๆ ผ้าขนหนูจะช่วยขัดผิวหน้า ช่วยสครับผิว กำจัดขี้ไคลหรือชั้นผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นการสร้างชั้นผิวใหม่ อีกทั้งการขัดนวดยังเพิ่มการไหลเวียนเลือดได้ด้วย

หน้าใสทําไง

ไม่น่าเชื่อว่าการดูแลผิวง่าย ๆ ในข้างต้น จะเป็นเคล็ดลับผิวสวยของสาวเกาหลี ต่อไปนี้ถ้าใครมาถามว่าหน้าใสทำไง อยากมีผิวสวยเหมือนคนเกาหลีทำไง ก็แชร์บทความนี้ให้เค้าอ่านได้เลย

หน้าใสทําไง

อยากหน้าใสทําไง บอกเทคนิคการบำรุงอย่างไร ให้หน้าใส

หน้าใสทําไง อยากรู้คำตอบแล้วล่ะสิ ไปดูพร้อมกันเลย

หน้าใส คำนี้ใครๆ ก็อยากจะได้ยินจากคนรอบข้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกชมด้วย คำนี้ และถ้าหากคูณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเทคนิคที่จะตอบโจทย์ของคำถาม หน้าใสทําไง เราก็ได้หาเทคนิคจากบรรดาไอดอลเกาหลีมาฝาก รับรองได้เลยว่าหากทำตาม หน้าใสแน่นอน

ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้ไม่ออกจากบ้าน

หลายคนชอบคิดว่า รังสียูวีจากแสงแดดเท่านั้นที่จะทำร้ายผิวของเราได้ แต่ความจริงคือ แม้กระทั่งแสงไฟตามบ้าน และสำนักงาน ก็ทำร้ายผิวของเราได้ไม่ต่างกัน ดังนั้น ขั้นแรกของการแก้ปัญหาก็คือ คุณต้องฝึกตัวเองให้มีนิสัยในการทาครีมกันแดดเป็นประจำ และควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับประเภทของกิจกรรม และความรุนแรงของแสงแดที่จะไปเจอด้วย ที่สำคัญ คือ ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 3-6 ชั่วโมง ตามแต่ความแรงของแดด และปริมาณของเหงื่อที่ออกมา

หน้าใสทําไง

ล้างเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าเสมอ

การล้างหน้าเลย อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าสะดวก แต่มันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณใช้ครีมกันแดด และเครื่องสำอางเป็นประจำ เราอยากจะแนะนำว่าให้คุณยอมเสียเวลาเพิ่มเล็กน้อยในการล้างเครื่องสำอาง โดยการใช้โทนเนอร์ หรือคลีนเซอร์ ในการชำระเครื่องสำอางออกจากผิวก่อนแล้วจึงทำการล้างหน้าตามปกติ

ล้างหน้าทุกวันก่อนนอน

มีไอดอลเกาหลีหลายคนยอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยอาบน้ำก่อนนอน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาพูดตรงกัน ก็คือ พวกเขาจะล้างหน้าก่อนนอนเสมอ ดังนั้น หากคุณกำลังสงสัยว่าหน้าใสทําไง อยู่ล่ะก็ เราอยากจะให้คุณล้างหน้าเสมอ ทุกคืน เพราะในระหว่างวันผิวหน้าของเราต้องเจอกับมลภาวะมากมาย จนอาจจะทำให้เกิดสิว และสิ่งสกปรกหมักหมมได้ และการล้างหน้าให้เป็นนิสัย จะช่วยให้คุณสามารถบำรุงผิวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

หน้าใสทําไง

 

ใช้มาร์กหน้าสำหรับกลางคืน เป็นประจำ

การมาร์กหน้าเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวพรรณของคุณได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ มากกว่าการทาครีมบำรุงผิวเฉยๆ และสำหรับคุณที่กำลังต้องการที่จะมองหาวิธีการทำให้หน้าใส นี่เป็นคำตอบ และเคล็ดลับที่คุณอาจจะไม่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใกล้วันสำคัญ สาวๆ เกาหลีมักจะมาร์กหน้าติดกัน เป็นสัปดาห์ เพื่อให้ผิวพร้อมสำหรับการแต่งหน้า และให้ผิวที่สวยเป็นธรรมชาติ ชนิดที่ว่าโชว์หน้าสดก็ไม่อาย

หน้าใสทำไง

นี่เป็นเพียงเคล็ดลับง่ายๆ ที่เราอยากจะนำมาฝากสำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าหนุ่มสาวเกาหลีนั้นทำไมถึงหน้าใส และเคล็ดลับหน้าใสทําไงของพวกเขาคืออะไร นี่คือคำตอบที่คุณสามารถทำตามได้ง่ายๆ และหากทำเป็นประจำ รับรองว่าไม่เกิน 3 เดือน คุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้า จะรับมืออย่างไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้ลุกลาม

หน้าเป็นฝ้า สิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกลับตัวเอง

ฝ้า คำนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยไหน ย่อมไม่อยากเจอ เพราะนอกจากจะเห็นได้ชัด และหลายๆ ครั้งการแต่งหน้าก็เอาไว้อยู่แล้ว ฝ้า ก็ยังเป็นสิ่งที่รักษาให้หายได้ยาก แต่พร้อมที่จะกลับมาอยู่บนหน้าเราได้เสมอ และถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบภัยผิว หน้าเป็นฝ้า อยู่ล่ะก็เรามีสาระหน้ารู้เกี่ยวกับปัญหาผิว ประเภทนี้มาฝาก

ฝ้า เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุของการเป็นฝ้า นั้นมีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความผิดปกติของฮอร์โมน การตากแดดมากเกินไป แบบสะสม และที่สำคัญที่สุด ก็คือ เรื่องของอายุ และความเสี่ยงของเซลล์ผิว เมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้ว เราจะพบว่ามีสาเหตุมากมายที่ทำให้เกิดฝ้า ขึ้นบนผิวหน้าของเรา บางชนิด สามารถรักษาให้หายได้ แต่หน้าเป็นฝ้บางประเภทเราทำได้เพียงแค่ทำให้มันจางลงเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายได้

หน้าเป็นฝ้า

 

ฝ้าอาจจะเป็นมะเร็งผิวได้หรือไม่

คำตอบคือ มีแนวโน้นที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง และไม่เป็น ขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้าที่เกิดขึ้น ดังนั้น ทางเดียวที่เราจะรู้ก็ คือ การไปพบ และปรึกษาแพทย์ผิวหนังอย่างจริงจัง เมื่อพบว่าฝ้าบนผิวหน้ามีความผิดปกติ เช่น มีการขยายอาณาเขตที่เร็วเกินไป มีความรู้สึก เจ็บ แสบ คัน บริเวณที่เป็นฝ้า หรือพบว่ามีน้ำหนอง และเลือดไหลออกมาจากบริเวณดังกล่าว เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไป

 

ฝ้ารักษาได้อย่างไร

เมื่อหน้าเป็นฝ้า อย่างแรกที่หลายคนคิดถึง ก็คือ จะทำอย่างไรให้รอยดำ หรือรอยแดงที่หน้านั้นหายไป ซึ่งการรักษาฝ้านั้น สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

ใช้ธรรมชาติรักษา สำหรับสมุนไพรที่ช่วยให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใสได้ในเวลาไม่นานนั้น มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่ง มะเขือเทศ สับปะรด หอมแดง มะนาว และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ก่อนที่จะนำเอาสมุนไพรเหล่านั้น มาขัด หรือพอกหน้า คุณอาจจะต้องทดสอบอาการแพ้ก่อน เพราะหากเกิดอาการแพ้ ทีนี้นอกจากฝ้า แล้ว ยังอาจจะต้องเจอกับภาวะผิวหน้าพัง จนรักษายากเกินไปอีก

การใช้ยา และพบแพทย์ผิวหนัง ในรายที่ หน้าเป็นฝ้า ที่เกิดจากฮอร์โมน หากไปพบแพทย์ อาจจะต้องมีการใช้ยาเพื่อปรับฮอร์โมน ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีอย่างการทำเลเซอร์ การเร่งผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวของเราสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา

ใช้ครีม และเครื่องสำอาง นอกจากการแต่งหน้า เพื่อปกปิดรอยดำบนผิวแล้ว คุณอาจจะต้องมองหาสกินแคร์ที่มีความเหมาะสมในการช่วยรักษาจุดด่างดำบนผิวหน้า และช่วยให้ผิวหน้ากลับมากระจ่างใส ซึ่งวิธีการนี้อาจจะนานกว่า การจัดการกับฝ้าบนหน้าด้วยวิธีการอื่น แต่ก็เป็นวิธีการที่ถือว่าราคาถูกมากที่สุดเช่นเดียวกัน

หน้าเป็นฝ้า

การดูแลผิวไม่ให้หน้าเป็นฝ้านั้นดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เพราะการรักษาตามหลังนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินจำนวนมากอีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว ควรทาครีมกันแดด และสกินแคร์ที่ป้องกันการเกิดฝ้าเป็นประจำ เพื่อรักษาผิวหน้าสวยๆ ใสๆ ไร้ริ้วรอย ให้อยู่กับคุณได้นานๆ

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้ามาดูกันว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ฝ้าได้อย่างไรบ้าง

อย่าเพิ่งถอดใจ หน้าเป็นฝ้า แก้ไขได้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ปัญหาหน้าเป็นฝ้ามักจะเกิดขึ้นเมื่อตัวเลขอายุค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หลายคนถอดใจกับการแก้ปัญหาฝ้า เพราะการรักษาฝ้าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งฝ้าเป็นความผิดปกติของผิวหนัง ที่มีการสร้างเม็ดสีผิวมากเกินไป (Hyperpigmentation)ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ทำให้ผิวหน้าบริเวณนั้น เป็นปื้นสีน้ำตาลหรืออาจเป็นปื้นสีเทาก็ได้ ฝ้ามักเกิดขึ้นบนผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก แก้ม สันจมูก รวมถึงผิวหนังเหนือริมฝีปากด้านบนนอกเหนือจากผิวหน้าแล้ว ฝ้าอาจเกิดขึ้นที่ผิวหนังส่วนอื่นก็ได้ เช่น บริเวณท้องแขน คอ หรือบริเวณไหล่ ฝ้ามักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีสีผิวคล้ำหรือกำลังตั้งครรภ์

หน้าเป็นฝ้า

สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า

ถึงแม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของฝ้านั้น อาจยังไม่สามารถสรุปได้แน่นอน แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของเม็ดสีผิวได้ เช่น การโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานาน การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในคนที่กำลังตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน หรือแม้แต่การใช้เครื่องสำอางที่ก่อความระคายเคืองให้กับผิว

 

รักษาฝ้าด้วยยา

หน้าเป็นฝ้าสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยารักษาฝ้า ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายขนาน การเลือกใช้ยาที่เหมาะสม ก็ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเราเอง

  • ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ถึงแม้ว่าจะเป็นสารอันตราย แต่ถ้าการใช้ยาอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ก็สามารถวางใจได้ ไฮโดรควิโนนจะยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นการยับยั้งที่ต้นเหตุของฝ้า มีประสิทธิภาพดี และเห็นผลเร็ว
  • กรดวิตามินเอ (Retinols) เช่น เทรติโนอิน (Tretinoin) ความเข้มข้น 0.025 – 0.1% หรืออาดาพาลีน (Adapalene) 0.1 – 0.3% ตัวยากลุ่มนี้ จะช่วยให้ผิวผลัดเปลี่ยนได้เร็วขึ้น ทำให้ฝ้าค่อย ๆ จางหายไป
  • สารสเตียรอยด์ (Steroids) แพทย์บางท่านอาจใช้ครีมที่มีตัวยาสเตียรอยด์เพื่อใช้รักษาฝ้า เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น แพทย์อาจใช้สเตียรอยด์ร่วมกับกรดวิตามินเอและไฮโดรควิโนน
  • ยาทรานเนซามิกแอซิด (Tranexamic acid) ถึงแม้ว่าผลที่ได้ในการรักษาฝ้าอาจยังไม่แน่นอน แต่ก็เป็นตัวยารักษาฝ้าที่นิยมใช้กัน อาจใช้เป็นยาเดี่ยวหรืออาจใช้ร่วมกับการทำเลเซอร์ก็ได้ ตัวยามีทั้งรูปแบบยากิน ยาฉีด และยาทาภายนอก
  • ยาทาภายนอกอื่น ๆ รวมถึงเครื่องสำอางที่ช่วยทำให้ฝ้าค่อย ๆ จางหายไป เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของกรดโกจิก (Kojic acid) อาร์บูติน (Arbutin) หรือกรดผลไม้ (AHA) เป็นต้น

แต่ในกรณีที่ปัญหาฝ้ารุนแรงมาก แพทย์อาจใช้การหัตการ เช่น การลอกผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peel) การทำเลเซอร์ (Laser treatment) การทำ Dermabrasion หรือ Microdermabrasion จะทำวิธีใดก็ขึ้นกับลักษณะฝ้าที่เป็นและการตัดสินใจของแพทย์ร่วมกับผู้ป่วย

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้าถึงแม้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดทางกาย แต่หลายคนก็รู้สึกเจ็บปวดทางใจ การแก้ปัญหาฝ้าสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการใช้ยาทาภายนอก การใช้ยากิน หรือการใช้หัตการโดยแพทย์ วิธีไหนจะเหมาะสมกับเรานั้น ก็ควรให้แพทย์ผิวหนังเป็นคนพิจารณาให้

สบู่ใช้แล้วขาว

เลือกสบู่ใช้แล้วขาวอย่างไร ให้ขาวจริง ไม่หลอกลวง

สบู่ใช้แล้วขาว ที่ได้แล้วเห็นผลความมีส่วนผสมจากอะไรบ้าง

นอกจากครีมบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสแล้ว ใครที่อยากขาวก็คงจะมองหาสบู่ใช้แล้วขาวกันอยู่แน่ ๆ แต่เอ๊ะ แล้วเราจะเลือกอย่างไร ให้ใช้แล้วขาวจริงการเลือกสบู่ให้ตรงกับความต้องการของเรานั้น เราต้องมาดูที่ส่วนประกอบสำคัญ ของสบู่ก้อนนั้น ๆ ว่ามีสารสำคัญที่ทำให้ผิวขาวขึ้นได้หรือเปล่าสบู่ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสหลายยี่ห้อ มักจะผสมสารสกัดจากมะละกอ ซึ่งตัวสารสกัดจะมีเอนไซม์ที่เรียกว่าปาเปน (Papain enzyme) ที่สามารถพบได้ในส่วนเปลือก ตัวเอนไซม์นี้จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย นอกจากนี้เอนไซม์ปาเปน ยังช่วยลอกเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวดูกระจ่างใสได้เร็วมากขึ้น

สบู่ใช้แล้วขาว

กลูต้าไธโอน (Glutathione) เป็นอีกส่วนผสม ที่สบู่หรือเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวมักจะใส่ลงไปด้วย กลูต้าไธโอนจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทรโรซีเนส (Tyrosinase) ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง การใช้สบู่ที่มีกลูต้าไธโอน จะทำให้ผิวค่อย ๆ ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ขาวในทันที

อาร์บูติน (Arbutin) เป็นสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งที่ต้นเหตุของความหมองคล้ำ โดยยับยั้งที่เอนไซม์ไทโรซีนเนส ทำให้เม็ดสีผิวเมลานินค่อย ๆ ลดลง ถือว่าเป็นสารที่ช่วยให้ผิวขาวที่มีความปลอดภัยมากที่สุดตัวหนึ่ง ได้มาจากการสกัดผลไม้หลาย ๆ ชนิด เช่น มัลเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ หรือลูกแพร์ และที่สำคัญหลาย ๆ คนที่ได้ลองสบู่ใช้แล้วขาวที่มีสารอาร์บูติน ต่างบอกว่าเห็นผลกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว และไม่ทำให้ผิวบาง

กรดโกจิก (Kojic acid) ได้มาจากสิ่งมีชีวิตจำพวกเห็ดรา มีสรรพคุณช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวค่อย ๆ ขาวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ในเครื่องสำอางมักจะใส่กรดโกจิกในความเข้มข้น 1 – 4% ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัย อีกทั้งกรดโกจิก ยังช่วยทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย ป้องกันผิวจากแสงแดดและรังสียูวี และยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจเป็นสาเหตุของสิว

สบู่ใช้แล้วขาว

นอกจากสารข้างต้นแล้ว วิตามินซี (Vitamin C) สารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice root extract) หรือกรดไกลโคลิก (Glycolic acid) ก็มีส่วนช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสได้เช่นกัน  ถึงแม้ว่าการมองหาสบู่ใช้แล้วขาวจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวพรรณของเรากระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว แต่การปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดดหรือจากหลอดไฟ ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของเราหมองคล้ำมากขึ้น และทำให้เห็นผลจากสบู่ผิวขาวได้มากขึ้นนั่นเอง

 

สบู่ใช้แล้วขาว

สบู่ใช้แล้วขาว ใช้อย่างไรให้ขาวใส เห็นผลภายใน 1 เดือน

สบู่ใช้แล้วขาว ควรจะใช้อย่างไร เพื่อให้ผิวใสวิ้ง ได้ในเวลารวดเร็วที่สุด

ผิวขาว ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ต้องการ ถึงแม้ว่าอากาศเมืองไทย จะไม่เอื้ออำนวยก็ตามที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการที่จะขาวของสาวๆ ลดน้อยลง รวมไปถึงบรรดาผู้ผลิตสกินแคร์ต่างๆ ก็ได้เสาะแสวงหาเทคโนโลยีต่างๆ มาเพื่อช่วยเร่งให้ผิวของคุณขาวเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สบู่ใช้แล้วขาว ที่ต้องบอกว่านอกจากจะตอบโจทย์ในเรื่องของความขาวแล้ว เรื่องของราคา ก็สบายกระเป๋าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คุณจะมีผิวที่ขาวขึ้นหรือไม่ เรื่องของการดูแลผิว เป็นประจำ ก็ถือว่าจำเป็น ซึ่งในหัวข้อนี้ เราจะพาคุณมาดูว่า เมื่อมีสบู่บำรุงผิวขาวแล้ว จะทำอย่างไรให้ผิวของเราขาวขึ้นได้ จริงๆ ดังนี้

ถูสบู่อย่างน้อย 3-5 นาที

สำหรับคนที่เวลาน้อย แต่ต้องการสบู่ขัดผิวขาว คุณอาจจะต้องเผื่อเวลาสำหรับการอาบน้ำซักเล็กน้อย เนื่องจากการถูตัวแบบผ่านๆ นอกจากไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกสะอาดขึ้นแล้ว ยังส่งผลในเรื่องของความขาวได้ด้วย เพราะฉะนั้น บรรดาสบู่ตัวขาวส่วนใหญ่ ถึงได้มีระบุไว้ในการใช้งานว่า ให้คุณถู และพอกสบู่ไว้ที่ผิวอย่างน้อย 5-15 นาที เพื่อให้สารอาหารผิว ซึมเข้าสู่ร่างกาย และเพื่อให้ผิวของคุณสามารถผลัดเซลล์ได้อย่างอ่อนโยน

สบู่ใช้แล้วขาว

ควรใช้สบู่ร่วมกับใยขัดผิว

ไม่ว่าจะเป็นใยขัดผิวจากธรรมชาติ อย่างใยบวบ หรือใยขัดผิวที่เป็นสิ่งสังเคราะห์ เพราะการอาบน้ำด้วยสบู่ใช้แล้วขาว เพียงอย่างเดียว แรงขัดของมือคุณไม่เพียงพอที่จะทำให้สิ่งสกปรก และเซลล์ผิวเก่าหลุดออกไปได้ จำเป็นต้องใช้ผู้ช่วยอย่างใยขัดผิว ช่วยขัดเอาเซลล์ที่ตายแล้วออกมา ที่สำคัญ คือ หากใช้ใยขัดผิว คุณจะประหยัดสบู่ได้มากขึ้น เนื่องจากตัวใยจะทำให้เกิดฟองที่มากกว่า ทำให้ทำความสะอาดผิวได้อย่างทั่วถึงมากกว่านั่นเอง

สบู่ใช้แล้วขาว

อย่าลืมใช้สครับขัดผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ ครั้ง

ถึงแม้ว่าจะมีสบู่ขัดผิวขาว แต่ผิวหนังของคุณจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษด้วยการใช้ครับในการขัดเสมอ ดังนั้น หากไม่อยากให้ผิวหมอง การขัดผิวด้วยครับ อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถือว่าเพียงพอ ที่จะทำให้ผิวของเราผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน และเผยผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ

สบู่ใช้แล้วขาว

และที่สำคัญ คือ หลังการอาบน้ำด้วยสบู่ใช้แล้วขาว ควรทาโลชั่น หรือมอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ ทุกครั้ง เพื่อคืนความชุ่มชื่นให้กับผิว เพียงแค่นี้ ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน คุณก็จะได้ผิวที่ทั้งขาวกระจ่างใส และมีสัมผัสที่นุ่มนวลตามมาอย่างไม่ยากนัก แต่สำคัญที่สุดก็คือ คุณจำเป็นที่จะต้องมีวินัยในการดูแลผิวด้วยเหมือนกัน เพราะผิวสวย ไม่สามารถสร้างได้ในวันเดียว