หน้าเป็นฝ้า

บอกเคล็ดลับรักษา หน้าเป็นฝ้า อย่างไรให้ได้ผล

หน้าเป็นฝ้า นั้นมีสาเหตุ อยู่ด้วยกันหลายอย่าง

หน้าเป็นฝ้า กระ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน โดยผู้ที่มีผิวขาวนั้นจะเกิดฝ้า กระได้ง่ายกว่าผู้ที่มีสีผิวเข้ม ถึงแม้ว่าการเกิดฝ้า กระนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเจ็บปวดต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่ก็เป็นปัญหาผิวที่กวนใจเนื่องจากทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอไม่เรียบเนียนเกิดความไม่มั่นใจ การรักษาจึงต้องดูที่ความปลอดภัยเป็นหลัก และอาจจะใช้ระยะเวลาสักหน่อย ฝ้า กระยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากขาดการดูแลผิวที่ดีเพียงพอ

ลักษณะของหน้าเป็นฝ้า กระ จุดด่าง

กระ เป็นจุดเล็กๆ มีสีเข้มกว่าสีผิวปกติ อาจเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม ขึ้นกระจายบนใบหน้า กระ จะขึ้นได้ตั้งแต่ชั้นผิวหนังธรรมดาไปจนถึงชั้นผิวหนังชั้นลึกมีสีที่เข้มและนูนขึ้นจากผิวหนังมาก ขนาดขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆอาจทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ ควรไปปรึกษาแพทย์โดยด่วนที่สุด

ฝ้า จะเป็นปื้นใหญ่ๆ มีสีที่เข้มกว่าสีผิวปกติของเรา ฝ้าถูกแบ่งเป็นสองชนิดคือ ชนิดตื้นจะอยู่ตรงชั้นหนังกำพร้า เม็ดสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทาดำ และฝ้าชนิดลึก เม็ดสีที่เปลี่ยนจะอยู่ถึงชั้นหนังแท้ มีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา หรือเทาอมฟ้า

หน้าเป็นฝ้า

การป้องกันไม่ให้เกิดฝ้า กระ

1.ทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่ทำเกิดฝ่า กระได้

2.เมื่ออยู่กลางแจ้งให้ทาครีมกันแดดเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ โดยเลือกค่า spf ที่สูงๆประมาณ 50 ขึ้นไป ควรจะพกร่มหรือใส่หมวกปีกกว้างไว้ด้วย

3.ถ้าหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ควรหลีกเลี่ยง ช่วงที่แสงแดดแรงที่สุดจะอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 11-14 นาฬิกา

4.หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีผลกับฮอ์โมน เพราะสามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ เช่น ยาคุมกำเนิด

5.หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้เครื่องสำอาง

หากเป็นฝ้า กระ จะรักษาอย่างไร

เมื่อผิวหน้าสวยๆของคุณเริ่มมีฝ้ามาเยือน อย่าเพิ่งใจร้อนรีบซื้อคอร์สรักษาฝ้าแพงๆหรือซื้อครีมรักษาฝ้าที่มีขายอยู่ในท้องตลาดมาใช้ ควรเริ่มต้นรักษาฝ้าอย่างเป็นขั้นตอนด้วยวิธีการที่ถูกต้องเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องทำร้ายผิวโดยไม่ได้ตั้งใจและรักษาฝ้าให้ได้ผลที่ที่สุดอย่างที่ต้องการ

 

1.พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก่อน เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง ,ประเมินระดับความรุนแรงของฝ้า และแนวทางการรักษาที่เหมาะสม หากเป็นฝ้าที่ไม่ลึกมาก อาจใช้ยาทาหรือแนวทางการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ แต่หากเป็นฝ้าลึกมากอาจต้องใช้วิธีการทางการแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาหน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้า

 

2.หยุดการรับประทานยาหรือเครื่องสำอางที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนผสมทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนซึ่งกระตุ้นให้เกิดฝ้า ดังนั้นจึงอาจขอปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนไปใช้ยาคุมกำเนิดชนิดอื่นแทนอย่าง ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำหรือยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวแทน

หน้าเป็นฝ้า

 

3.สอบถามแพทย์ เพื่อปรึกษาเรื่องการใช้ครีมไฮโดรควิโนในการรักษาฝ้า เรารู้กันว่าไฮโดรควิโนนเข้มข้นอาจส่งผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อผิวแต่การใช้อย่างระมัดระวังในปริมาณพอเหมาะจะช่วยรักษาหน้าเป็นฝ้าได้ เนื่องจากไฮโดรควิโนนมีการทำงานโดยการปิดกั้นกระบวนการทางเคมีตามธรรมชาติของผิวในการสร้างเมลานิน ซึ่งหากปริมาณเมลานินลดลงฝ้าก็จะจางลงด้วย ดังนั้นหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ครีมไฮโดรควิโดนในการรักษา แพทย์จะสั่งไฮโดรควิโนนในความเข้มข้นไม่เกิน 4 % หากมากกว่านี้อาจทำให้ผิวถูกฟอกสีจนกลายเป็นผิวด่างได้

หน้าเป็นฝ้า

นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีการอื่นๆในการรักษาฝ้าอย่างเช่น การลอกผิวด้วยกรดผลไม้โดยอาจใช้กรดผลไม้ที่มีความเข้มข้นสูงลอกเซลล์ผิวบริเวณที่เป็นฝ้าหรือใช้วิธีกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีการรักษาฝ้าที่ได้ผลดีแต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญโดยเคร่งครัด

ารรักษาหน้าเป้นฝ้าที่เห็นผลสูงสุด

1. รักษาโดยใช้ยาทา โดยยาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย กรดวิตามินเอ ไฮโดรควิโนน ทรานีซามิก โดยกรดเหล่านี้มีฤทธ์ทำให้ผิวขาว และลดการอักเสบ แต่ควรใช้ในปริมาณที่น้อยหรืออยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

2. การใช้สารเคมีลอกผิว เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่เป็นฝ้าลึก ใช้กรดครอโรอะซิตริกจะทำโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น หลังการทำควรหลีกเลี่ยงแสงแดด

3. รักษาด้วยแสงเรเซอร์ IPL เป็นวิธีที่ทำให้ฝ้าจางลงได้อย่างรวดเร็ว และมีผลข้างเคียงน้อย ควรทำประจำทุกๆ 2 สัปดาห์ ติดต่อกัน 2-4 เดือน ขึ้นอยู่กับความลึกของฝ้า ถึงแม้จะเป็นวิธีรักษาหน้าเป็นฝ้าที่เห็นผลรวดเร็วแต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และฝ้าอาจจะกลับมาได้อีกขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของเราด้วย

4. การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้า กระ ลุกลาม และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน แข็งแรง ควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ อ่านฉลากก่อนใช้ยาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

5. ใช้สมุนไพร อย่างเช่น ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือกล้างออกให้สะอาด นำไปบดหรือปั่น แล้วนำมาพอกหน้าประมาณ 15-20 นาที ทำเป็นประจำประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ฝ้าจะค่อยๆจางลงและหายไวขึ้น สูตรไข่ขาว นำไข่ขาวมาทาบางๆบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ 5-10 นาที รอยฝ้าและสิ่งสกปรกจะหมดไป

6. ใช้ครีมรักษาฝ้า เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA, อาร์บูติน, วิตามินซี หรือครีมต่างๆที่มีคุณสมบัติในการรักษา ก็จะช่วยให้ฝ้าจางลงและผิวกระจ่างใสขึ้น แต่ควรเลือกครีมที่มีความน่าเชื่อถือปลอดภัย และไม่มีสารอันตราย

วิธีเลือกครีมรักษาฝ้าที่ได้ผลและปลอดภัย

1. อันดับแรกเลยต้องมีเลขจดแจ้ง อย. วัน-เดือน-ปี ที่ผลิต สถานที่ผลิตระบุอย่างชัดเจน
2. ระบุส่วนผสมในครีม
3. มีวิธีใช้ระบุอย่างชัดเจน
4. หลีกเลี่ยงครีมที่ผสมสารอันตราย
5. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ วิธีทดสอบคือนำครีมที่จะใช้มาทาบริเวณผิวที่บอบบาง อย่างหลังใบหูหรือท้องแขน ทิ้งไว้สัก 30 นาที หรือข้ามคืนเลยก็ได้ ถ้ามีอาการระคายเคือง มีรอยแดง ผื่นขึ้น ให้หลีกเลี่ยงการใช้ทันที

การใช้ครีมที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่หน้าสนใจของคนหน้าเป็นฝ้า เพราะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย วิธีการเลือกครีมรักษาฝ้า กระ ควรเลือกครีมที่ปลอดภัย ไม่มีสารพิษ มีสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายแบบ อย่างเช่น PURE FACE POWER UP SERUM ของ Jellys ที่นอกจากปรับผิวให้กระจ่างใสแล้ว ยังช่วยลดเลือน ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยและรอยสิว รูขุมขนกระชับ เพราะมีส่วนผสมของรกม้า ที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ฝ้า กระ บนใบหน้าลดเลือนลงได้เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

หน้าเป็นฝ้า

และมาร์คก่อนนอน PURE CREAM ช่วยฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ มาร์คตัวนี้มีสารสกัดจาก กรดผลไม้ AHA ที่เป็นกรดมีอยู่ในผลไม้ทั่วไป มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวผิวหน้าจะขาวใสช่วยรักษาหน้าเป็นฝ้า จุดด่างดำดูจางลง และสารสกัดจากวิตามินซี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดเลือนริ้วรอย เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนำเลยค่ะ เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัย และเห็นผลแน่นอน ที่สำคัญคือการดูแลตนเองค่ะ ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมป้องกันแสงแดดทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจ้าเป็นเวลานานๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีผิวหน้าที่เรียบเนียนกระจ่างใส ปราศจากฝ้า กระ และจุดด่าง ได้แล้วค่ะ

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

หน้าเป็นฝ้าทำไงดี 4 เคล็ดลับรักษาฝ้าหายง่ายๆ

หน้าเป็นฝ้ามาดูกันว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ฝ้าได้อย่างไรบ้าง

หน้าเป็นฝ้า รักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติง่ายๆ ได้ผลจริง

6 วิธีการรักษา หน้าเป็นฝ้า ด้วยเทคนิคทางการแพทย์

สบู่ใช้แล้วขาว

สบู่ใช้แล้วขาว PURE SOAP คืนความขาว ให้กับผิวของคุณ

สบู่ใช้แล้วขาว หากพูดถึงแล้วอาจเป็นเรื่องที่ สาวๆหลายคน อาจไม่ค่อยคุ้นเคยนัก

เมื่อดูจากภายนอก สบู่ใช้แล้วขาว จะไม่มีความแตกต่างจากสบู่ทั่วไปที่ออกแบบและผลิตมา เพื่อช่วยในการทำความสะอาดร่างกายและต่อสู้กับแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น แต่สบู่ผิวขาวจะมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ในการช่วยความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเผยผิวใหม่ที่มีสุขภาพดีที่มีความขายเนียนกระจ่างใส สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยการยับยั้งการผลิตเมลานิน มักใช้ในการปรับโทนสีผิวลดลักษณะที่ปรากฏของแผลเป็นและลดจุดด่างดำ บางคนยังใช้สบู่ฟอกสีผิวเพื่อรักษารอยดำและฝ้า สบู่ที่ช่วยให้ขาวที่ดีนั้นจะต้องไม่มีส่วนผสมของปรอทและไฮโดรควิโนน โดยใช้สารสกัดที่ช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสแก่ผิว ที่มีความปลอดภัยกว่านั่นก็คือ กรดโคจิก,แอลกลูตาไธโอนและวิตามินซี กรดโคจิกช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีในผิวหนัง ในขณะที่ L-glutathione เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ เพื่อป้องกันความเสียหายจากแสงแดดและทำให้ผิวสว่างขึ้น วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยป้องกันการผลิตเมลานิน

สบู่ใช้แล้วขาว

การใช้สบู่ใช้แล้วขาว นั้นจะต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแนวโน้มว่าผิวจะมีความขาวกระจ่างใสลดลง เมื่อเวลาผ่านไปหากไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเป็นประจำ ส่วนครีมทาผิวขาวเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการผิวขาวกระจ่างใส ครีมเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อลดความหมองคล้ำพร้อมทั้งช่วยให้ผิวเรียบเนียน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ครีมทาผิวขาวแตกต่างจากสบู่ผิวขาวก็คือครีมจะสามารถติดอยู่กับผิวได้นานกว่า ซึ่งหากสาวๆต้องการให้ผิวขาวกระจ่างเนียนใสอย่างรวดเร็ว สามารถใช้ทั้งสบู่ขาวควบคู่กับครีมทาผิวขาวร่วมกันได้

แล้วสบู่ใช้เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวเรา และปลอดภัย

เนื่องจากในปัจจุบันนี้มี สบู่ใช้แล้วขาว มากมายให้เลือกหลายยี่ห้อ ทั้งคุณสมบัติต่างๆที่หลากหลาย เราอาจตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าควรเลือกใช้ยี่ห้อไหนดีให้สะอาดและปลอดภัย เรามีเคล็ดลับมาแนะนำดังนี้ค่ะ

1. ควรดูค่าความเป็นกรดด่าง โดยค่า pH มาตรฐานของผิวจะอยู่ที่ 4.5-5.5 ดังนั้นสบู่ที่เหมาะกับผิวเราจะต้องมีค่า pH อยู่ที่ 8-10 โดยปกติสบู่ที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดที่ปลอดภัยจะมีค่า pH ตามนี้อยู่แล้ว

2. ควรรู้ว่าสบู่มีส่วนผสมอะไรบ้าง และมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อเลือกสบู่ที่เหมาะสมกับผิวเรา สบู่แยกประเภทได้ดังนี้

1) สบู่กลีเซอรีน เป็นสารที่แยกตัวจากขั้นตอนของการทำสบู่เย็น ลักษณะเหนียวใส มีค่า pH 7 มีความชุ่มชื่นสูงมีความเป็นด่างน้อย

2) สบู่เหลว คือสบู่กลีเซอรีนที่ผสมน้ำให้มีความเหลวมากขึ้น

3) เจลอาบน้ำ คือส่วนผสมของสารชำระล้างกับสารเคมีอื่น สามารถกำหนดค่าความเป็นกรดด่างได้

4) สบู่ไขมัน ทำจากไขมันผสมกับด่าง มีค่าความเป็นด่างสูงจึงละลายไขมันที่มีความเป็นกรดได้ดี สบู่ประเภทนี้จึงทำความสะอาดผิวได้ดีด้วย โดยสบู่ไขมันจะทำจากไขมันที่ต่างกันดังนี้

– น้ำมันมะพร้าว เนื้อจะแข็ง แตกง่าย มีฟองมาก ทำให้ผิวแห้ง
– น้ำมันปาล์ม มีฟองน้อย ชำระล้างได้ดี แต่จะทำให้ผิวแห้ง
– น้ำมันถั่วเหลือง ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น แต่เก็บได้ไม่นาน จะเกิดกลิ่นหืน
– น้ำมันรำข้าว มีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิว ลดความแห้งตึงของผิว
– น้ำมันงา มีวิตามินสูง ช่วยให้ผิวนุ่ม มีความชุ่มชื้น
– ไขมันวัวหรือไขมันหมู เนื้อสบู่จะแข็งมีสีขาว ฟองน้อยแต่มีความนุ่มนวล ทนทาน
– น้ำมันมะกอก เนื้อแข็ง สามารถใช้ได้นาน มีฟองหนาแต่เป็นครีมเนื้อเนียนนุ่ม ไม่ทำให้ผิวแห้ง
– ไขมันแพะ เนื้อสบู่มีความนุ่ม ให้ความชุ่มชื่นผิวดีมาก

แล้วสบู่ทำให้ผิวขาว เนียน ผิวดี รีวิวเพียบ มีตัวแนะนำบ้าง

สบู่ใช้แล้วขาว ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ ที่ขาดไม่ได้ทุกครัวเรือนจะต้องมีเจอทีเดียว จุดประสงค์ของสบู่ส่วนมากคือการช่วยขจัดแบคทีเรีย ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ นั้นก็แล้วแต่ว่าผู้ผลิตจะเสริมอะไรเข้ามาเช่น มีวิตามินบำรุงผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ผิวขาว เป็นต้น ซึ่งสบู่ใก็มีเยอะมากเพราะใคร ๆ ก็ชอบความขาวนั้นเอง ส่วนตัวไหนจะให้ประสิทธิ์ภาพดีขนาดไหนก็ต้องให้ผู้ใช้ได้ติดสินกันเอาเอง ยี่ห้อหนึ่งที่อยากแนะนำคือ PURE SOAP มั่นใจในประสิทธิ์ภาพได้อย่างแน่นอน ใช้ดี ขาวจริง มีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐาน

สบู่ใช้แล้วขาว

การเลือกสบู่นั้นหากจะเชื่อแต่เพียงคำโฆษณาอย่างเดียวคงไม่ได้

สบู่ใช้แล้วขาว ในบางแบรนด์นั้นแม้จะติดตลาดแล้วแต่ก็ยังสู้แบรนด์ที่เกิดใหม่ไม่ได้ ด้วยลูกค้าหรือผู้ใช้เองก็สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้อยู่แล้วจากการใช้งานจริง ๆ ซึ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อมาลองใช้กันทุกยี่ห้อก็ได้ ให้เลือกสบู่ตัวที่พิจารณาแล้วว่าสรรพคุณใช้ได้ ขาวจริง มีรีวิวช่วยการันตีหลายแหล่งและได้รับการรับรองมาตรฐานหลายที่ โดยเฉพาะ อย. หรือบางตัวมีการรับรองมาตรฐานจากในต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ

สบู่ใช้แล้วขาว

ส่วนประกอบของ สบู่ใช้แล้วขาว ส่วนมากจะมีอะไรก็ตามที่ทำให้ผิวเนียนขาวและปลอดภัย สำหรับสบู่ PURE SOAP ที่หลายคนต้องใช้อยู่นี้มักจะรู้กันดีว่าส่วนประกอบนั้นมีคุณภาพมาก กลิ่นหอม ใช้ดี และหลัก ๆ จะมีสารสกัดจากน้ำนม ที่มีวิตามิน A มาสร้างเซลล์ผิวและทำให้มีภูมิคุ้มกัน มีวิตามิน B2  ด้วยและมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระลดการเสื่อมสภาพของร่างกาย  กรดที่มาจากสารสกัดของผลไม้ เช่น อ้อย ส้ม มีกลูต้าไธโอนตัวนี้เองที่ทำให้เม็ดสีจากน้ำตาลเป็นสีชมพูขาวได้ ข้อนี้เองที่ทำให้ PURE SOAP เป็นสบู่ที่ดีอีกยี่ห้อหนึ่ง

กลูต้าไธโอน คืออะไร ทำไมช่วยให้ผิวขาว

สบู่ใช้แล้วขาวส่วนใหญ่จจะผสมสารกลูต้าไธโอน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลาย ทำหน้าที่ป้องกันองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์และยังช่วยปรับเม็ดสีผิวของเราให้ขาวขึ้น และมีประโยชน์ในทางการแพทย์อีกมากมาย โดยปกติแล้วเซลล์ในร่างกายสามารถสังเคาระห์สารกลูต้าไธโอนได้เอง กลูต้าไธโอนจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเรา ยกเว้นได้รับมากจนเกินไปจากการรับประทานหรือฉีดเข้าเส้นเลือด อาจทำให้เกิดอาการช็อคหมดสติเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นวิธีที่ง่ายและปลอดภัย มาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกลูต้าไธโอนกันดีกว่าค่ะ ปลอดภัยไม่เสี่ยงอันตรายด้วย

วิธีใช้สบู่ PURE SOAP เพื่อผิวขาว

สามารถใช้ได้ทุกครั้งที่อาบน้ำ เช้า – เย็น สบู่ใช้แล้วขาว ขัดตัวโดยใช้ปกติเอามาตีให้เป็นฟอง ๆ จากนั้นลองถูและขัดพอกทิ้งเอาไว้บนผิวกายสักพักแล้วล้างออก เพื่อให้ได้ฟองง่ายและเยอะลองหาใยขัดตัวหรือถุงตาข่ายมาช่วยตีฟองก็ได้ ก็เป็นการใช้ในแบบการขัดตัวในขณะที่เราอาบน้ำแบบปกติ หากใครที่ต้องการใช้สบู่ PURE SOAP ก็เข้าไปหาซื้อได้ในเว็บหรือเพจของเราได้เลย ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจลองเข้าไปดูกันเองนะ

สบู่ใช้แล้วขาว

หากตอนนี้คุณยังหาไม่เจอสบู่ที่ใช่ก็ลองหาไปสักพัก โดยการพิจารณาจากความจำเป็นและความต้องการของตัวเองสบู่ใช้แล้วขาว ไม่จำเป็นจะต้องมีราคาแพงแต่ก็ให้ระมัดระวังของถูกเกินไปด้วย โดยเฉพาะที่วางขายตามตลาดนัดเป็นแบรนด์ที่ไม่มีชื่อ ไม่มีอะไรการันตี และยังไม่มีการรับรองจากไหนมันอาจจะขาวจริงแต่คุณจะมั่นใจแค่ไหนว่าจะมีความปลอดภัยกับผิวของเรา  และเพื่อความปลอดภัยเลือกใช้ PURE SOAP ไม่ต้องกังวลกับอะไรเลยใช้แล้วดีจริงลองสิ

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด ควรเลือกอย่างไร ให้เหมาะกับตัวเรา

การเลือกซื้อ ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด มีหลักการอย่างไรบ้าง

มีครีมบำรุงผิวหน้าจำนวนไม่น้อยที่มีคุณสมบัติปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ซึ่งสาวๆที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามย่อมต้องมองหา ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด ที่จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวเนียนใส ดูดีได้อย่างปลอดภัย และครีมเหล่านี้ต้องปราศจากสารที่เป็นอันตรายอย่างเช่นไฮโดรควิโนนและสารปรอทครีมที่มีส่วนผสมของสารอันตรายดังกล่าวจะทำให้ผิวรู้สึกร้อนและแสบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงแดดหรือเครื่องปรับอากาศ บางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วยซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่หยุดใช้จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและทำให้เกิดจุดด่างดำขึ้นได้ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นสารปรอทยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ทั้งทำลายไตและระบบประสาทและขัดขวางการพัฒนาสมองของทารกและเด็กเล็ก ๆ ได้ ดังนั้นสาวๆจึงต้องเลือกหาครีมบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุดที่ปราศจากสารอันตราย อีกทั้งยังต้องอ่านส่วนผสมของครีมและรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน และอย่าลืมดูวันหมดอายุของครีมเพราะอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อผิวหน้าได้หากใช้ครีมที่หมดอายุ

 

วิธีการเลือกซื้อครีมบํารุงหน้า เพื่อป้องกันผลเสียจากสารอันตราย

1.อ่านฉลากทั้งหมดบนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คุณใช้ หากพบคำเหล่านี้ mercurous chloride,calomel,mercuric,mercurio หรือ ปรอท ให้หยุดการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันที ก่อนทิ้งผลิตภัณฑ์ที่น่าสงสัยให้ห่อด้วยถุงพลาสติกหรือภาชนะบรรจุ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถซึมลงสู่ดินและเข้าสู่สิ่งแวดล้อมได้

2.หากครีมบำรุงผิวที่ซื้อมาไม่มีฉลาก อย่าใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเด็ดขาด ควรเลือกซื้อครีมบำรุงที่มีฉลากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ชัดเจน รวมถึงตรารับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา

3.ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ ด้วยการแตะครีมลงบนท้องแขนหรือหลังหู หากมีผื่นแดง แสบร้อน คัน ที่เป็นสัญญาณของการแพ้ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆอย่างเด็ดขาด

ไม่ต้องกังวลเรื่องครีมที่เป็นอันตรายเพราะในตลาดมีหลายชนิดที่ปราศจากสารที่เป็นอันตราย เราต้องเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาดด้วย การเลือกหาผลิตภัณฑ์ ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด จะเพิ่มความใส่ใจในการเลือกซื้อให้มากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

 

ต่อไปมาดูวิธีเลือกครีมบำรุง สำหรับคนที่มีปัญหาสภาพผิวในรูปแบบต่างๆ

หากจะหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าแต่ละคนก็จะชอบแตกต่างกันออกไป ในประเทศไทยนั้นจะมีครีมบำรุงหน้าที่ดีของแต่ละคนต่างกัน เนื่องจากจะต้องเช็คสภาพผิวของเราด้วยบางคนผิวมัน บางคนผิวแห้ง บางคนก็หนายกร้าน และอื่น ๆ อีก ฉะนั้นการจะใช้ครีมบำรุงตัวไหนก็จะต้องก็เลือกสรรพคุณให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองจะได้ประสิทธิภาพการบำรุงมากที่สุด

 

ครีมบำรุงสำหรับคนผิวแห้ง

สำหรับคนผิวแห้งกร้านนี้จะต้องเพิ่มความชุ่มชื่นด้วนครีมที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นที่สุด หรือมีส่วนผสมของออยล์ในครีมตัวนั้นด้วย จะได้ทำให้ผิวเนียนและไม่แห้ง และอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งเวลาต้องออกกลางแจ้งเป็นอีกทางในการปกป้องผิว

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

 

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับคนผิวมัน

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด ของคนผิวมันนั้นจะต้องเลือกให้ดีเป็นพิเศษ เพราะถ้าเลือกไม่ดีจะยิ่งทำให้ผิวมันมากกว่าเดิม สำหรับผิวมันนั้นจะเหมาะกับครีมที่เป็นประเภท Oil Free ก็คือจะต้องไม่มีส่วนผสมของออยล์นั่นเอง จะช่วยลดความมันบนใบหน้าลง

 

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับคนผิวหมองคล้ำ

ความหมองคล้ำของผิวนั้นส่วนมากจะมีสาเหตุจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ บ่อยครั้ง สภาพผิวถูกทำร้ายเป็นเวลานาน ครีมจะต้องมีส่วนผสมของอัลฟ่า ไฮดรอกซี่ แอซิด เพราะว่าจะช่วยทำให้เซลล์ผิวที่ตายไปแล้วได้หลุดออกไป ซึ่งจะทำให้ผิวมีความกระจ่างใส เนียนขาว น่าสัมผัส

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

 

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายจะใช้อะไรก็ต้องระวังให้มากกว่าใคร เพราะอาการแพ้นั้นจะทำให้ก่อนความเสียหายกับผิวได้ ผิวที่แพ้ง่ายจะเหมาะกับครีมบำรุงผิวหน้าที่ไม่มีน้ำหอมและกระตุ้นภูมิแพ้ต่าง ๆ และจะต้องเลือกครีมที่ไม่ทำให้การอุดตันของรูขุมขนด้วย

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

 

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวปกติ

ทั้งไม่มีความแห้ง ไม่มีความมัน แม้ส่วนนี้จะดีอยู่แล้วแต่ก็ละเลยการบำรุงไม่ได้ผิวจะต้องได้รับการบำรุง ซึ่งครีมบํารุงหน้าที่เหมาะกับคนผิวปกตินั้นจึงเป็นครีมที่มีส่วนประกอบของสารที่สามารถเพิ่มความมัน พร้อมทั้งให้มีความชุ่มชื่นแก่ผิวได้เยอะ จะได้บำรุงให้สุขภาพผิวหน้านั้นมีสุขภาพดี

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

ก่อนที่จะหาครีมสักตัวนั้นเราเองจะต้องรู้จักกับสภาพผิวของตนด้วย เพราะการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องกับสภาพผิวนั้น นอกจากจะไม่ช่วยบำรุงผิวแล้วอาจจะทำให้เกิดผลเสียก็ได้ หากต้องการตรวจสอบสภาพผิวสามารถตรวจได้ที่คลินิกความงามทั่วไป หรือสอบถามจากร้านที่ขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้เลยว่าเรามีสภาพผิวแบบไหนและเหมาะกับครีมแบบไหนบ้าง

 

ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อเราเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เข้ากับเราแล้ว วิธีการลงผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ครีมบำรุงของเรามีประสิทธิภาพสูงสุด จะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1.ศึกษาประเภทของครีมบำรุงผิวให้ดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกัน ควรดูประเภทและหน้าที่ของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนซื้อ และดูส่วนผสมให้ดีว่ามีสารที่ทำให้ผิวเราแพ้หรือไม่

2.อ่านวิธีใช้อย่างละเอียด ครีมบำรุงผิวหน้าบางชนิดก็ถูกนำมาใช้เจาะจงไม่เหมือนกัน เราควรอ่านวิธีใช้ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน

3.เรียงประเภทชนิดของผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ถ้าต้องใช้ครีมบำรุงหลายๆตัว เทคนิคง่ายๆเลยคือเลือกลงผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นจากน้อยไปหามาก ยกตัวอย่างเช่น ลงEssenceก่อน และลงเซรั่ม และตามด้วยเนื้อครีม ตบท้ายด้วยรองพื้น เป็นต้น

4.เลือกใช้ให้ถูกประเภท ครีมบำรุงกลางวันจะไม่เหนียวเหนอะหนะมาก อาจมีส่วนผสมป้องกันแสงแดด หรือจะทากันแดดทับอีกทีก็ได้ ครีมบำรุงกลางคืน จะเข้มข้นกว่ามีสารอาหารที่ครบถ้วน ให้การบำรุงเต็มที่ สิ่งสำคัญควรล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนทาครีมบำรุงกลางคืน เพื่อป้องกันการอุดตันรูขุมขน และจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือก ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด สำหรับตัวเราได้ง่ายขึ้น

5.ทาครีมไปทีละขั้นอย่ารีบทาพร้อมกันทันที หลังทาผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นควรทิ้งระยะห่างอย่างน้อยชนิดละ 1-2 นาที ครีมบำรุงที่ดีควรซึมสู่ผิวเร็วไม่ควรต้องทิ้งไว้นาน

6.ใช้ฝ่ามือทาครีมอย่างอ่อนโยน ประโยชน์จากความร้อนของฝ่ามือจะช่วยให้ผิวดูดซึมครีมได้ดีขึ้นแต่ควนนวดวนครีมบนหน้าอย่างเบามือ

7.ลงครีมบำรุงให้พอดี ไม่ควรลงครีมซ้ำและมากเกินไปเพื่อป้องกันหน้ามันเยิ้ม ยิ่งเวลาอากาศร้อนจะสังเกตได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะครีมบำรุงก่อนนอนควรทาในปริมาณที่พอเหมาะจะดีกว่าเพื่อป้องกันสิวอุดตันเพราะผิวระบายอากาศไม่ดีด้วย

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เลือกหลายชนิด แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เราอาจไม่ต้องยุ่งยากในการใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดและหลายขั้นตอนในการบำรุงแต่ละครั้ง และยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกมาก เราขอแนะนำ ครีม PURE FACE SUNSCREEN CREAM UVA/UVB SPF50 PA+++ สำหรับกลางวันของ JELLYS ครบในกระปุกเดียว ทั้งบำรุงผิวหน้า ป้องกันแสงแดดรังสีUVA/UVB สูงถึง 50 เท่า และมีส่วนผสมของครีมรองพื้น ช่วยให้หน้าเนียนขาวกระจ่างใส เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขุมขน 

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

และสำหรับครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด ในเวลากลางคืนที่แนะนำเลยจะเป็น มาร์ค PURE CREAM ของ JELLYS เพียงแค่มาร์คหน้าทิ้งไว้ก่อนนอน จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ตื่นมามีออร่า ขาวกระจ่างใสขึ้นอีกระดับ ที่สำคัญไม่เหนียวเหนอะด้วย เพียงเท่านี้คุณก็มีผิวที่ขาวกระจ่างใสสุขภาพดีและไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนการบำรุงที่ยุ่งยากอีกต่อไป

ครีมทาตัวขาว

ครีมทาตัวขาว ใช้ให้ถูกวิธี ขาวไว ไม่มีอันตราย

การใช้ครีมทาตัวขาว ช่วยให้ได้ผิวขาวสวยได้จริง ?

ความขาวเราสร้างได้หากต้องการ และมีหลายวิธีให้เราเลือกว่าจะขาวด้วยวิธีแบบไหน ง่ายสุดก็จะเป็น ครีมทาตัวขาว สูตรเร่งด่วนแต่จะต้องปลอดภัยด้วยนะ ไม่ใช่เร่งด่วนแต่กัดผิวเปื่อยไปหมดแบบนั้นไม่เอา บางคนก็เชื่อโฆษณาจนเกินไป โดยไม่ยอมพิสูจน์หาหลักความเป็นจริงเลย อยากจะขาวลูกเดียวไม่ดูส่วนประกอบ ไม่ตรวจสอบอาการแพ้ ซึ่งเราก็คงเห็นในข่าวว่ามีคนเสียทรงไปเลยว่า หมดสวย หมดหล่อ ไปเลย มันไม่คุ้มกัน

ถ้าไม่พึ่งครีมหรือทาโลชั่นบำรุงผิวเลยจะส่งผลเสียอะไร

หลายคนจะมองว่ามนุษย์เรานั้นตั้งแต่ยุคโบราณแล้วก็ไม่ได้มีอะไรมาประทินโฉม แต่ว่าในความเป็นจริงสมัยนั้นก็อาจจะมีก็ได้ ซึ่งความสวยงามล้วนเป็นที่ต้องการลึก ๆ อยู่แล้ว มาในสมัยนี้สิ่งที่ทำร้ายผิวมันเยอะกว่าสมัยก่อนนะ ธรรมชาติถูกทำลายไปเยอะ มลภาวะก็เยอะ แดดแรงอีก แสงจากไฟ จองจอต่าง ๆ อีก ล้วนแต่เป็นตัวที่ทำร้ายผิว ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลเสียหากไม่ทาครีม หรือครีมบำรุงผิวอะไรเลย ผลกระทบก็คือ

  1. ทำให้ผิวบางภูมิคุ้มกันน้อย
  2. เสี่ยงต่อการเกิดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ จากการโดนมลภาวะต่าง ๆ
  3. ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน แห้ง
  4. เจ็บป่วยง่าย ผิวไม่ได้รับวิตามินและสารอาหารบำรุงจากภายนอก ทำให้โดนทำร้ายได้ง่าย
  5. ผิวเหี่ยวเร็ว แก่เร็ว

อย่างไรก็ดีการทาโลชั่นบ้าง ครีมทาตัวขาว หรือเซรั่มต่างๆ บ้างแต่ก็ควรเลือกใช้แบรนด์ที่มีคุณน่าเชื่อเถือ มีการรับรองจาก อย. หรือจะที่อื่นก็ได้รับรองแล้วว่ามีส่วนประกอบที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ จะต้องเลือกที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองด้วย เพราะว่าผิวแต่ละคนต่างกัน ทั้งสีผิวด้วย

ครีมทาตัวขาว

ในการเลือกครีมทาผิวของแต่ละคนนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย เพราะว่าแบรนด์แต่ละแบรนด์นั้นมีเอกลักษณ์และจุดเด่นเฉพาะของตนเอง คนนี้อาจชอบแบรนด์นี้อีกคนก็อาจจะชอบต่างกันออกไปการเป็นคนเรียบง่าย สบาย ๆ ไม่สนใจความงามแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องปล่อยให้ผิวเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ไปตามเวรตามกรรมนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรนัก ผิวควรได้รับการบำรุงหน่อยก็ดี ผิวมันจะได้ดีใจและรู้ว่าเจ้าของมันยังคงสนใจมันอยู่ จะได้ฟื้นตัวบำรุงให้มีความขาวเนียน น่าสัมผัส

เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วก็รีบไปหาครีมทาตัวขาวสักยี่ห้อที่ชอบ มาบำรุงผิวกันเลย ไม่ต้องใช้เป็นของแพงก็ได้ เพราะทุกวันนี้ตลาดเครื่องสำอาง สกินแคร์นั้นแข่งกันสูง เราหาครีมดีราคาสบายกระเป๋าได้อยู่แล้ว ก็ลองไปเดิน ๆ ดู ตามห้างสรรพสินค้าแวะสักช็อปเพื่อเลือกครีมมาใช้สักตัวสามารถเลือกได้ตามชอบ จากนั้นก็อย่าลืมทาทุกวันด้วยนะ จะได้บำรุงผิวได้ตลอด

ครีมทาตัวขาว

การใช้ครีมทาตัวให้เห็นผลและอย่างถูกวิธี

ทุกวันนี้ในตลาดความงามมีโลชั่นบำรุงผิวกายมากมายหลายยี่ห้อที่สาวๆสามารถเลือกซื้อเลือกใช้ได้อย่างหลากหลายเพื่อให้ผิวพรรณสดใสสุขภาพดีและดูเนียนกระจ่างใสขึ้น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่สุดอย่างหนึ่งคงจะหนีไม่พ้นครีมผิวขาว ซึ่งครีมเหล่านี้มีอยู่ในร้านขายเครื่องสำอางและอาจเป็นครีมที่นำเสนอโดยแพทย์ผิวหนัง แต่เมื่อต้องใช้ครีมเหล่านี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างถูกต้องและระมัดระวังเพื่อให้คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ครีมได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ดูมีสุขภาพดีได้อย่างที่ต้องการ

1.เริ่มด้วยครีมที่เหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยโดยใช้ครีมทาตัวขาวที่ไม่มีสารเคมีที่รุนแรงเช่นสารฟอกขาวหรือไฮโดรควิโนน เลือกครีมที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติทั้งหมดจะดีที่สุดและควรเป็นครีมที่มีส่วนผสมจากน้ำนมเพราะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง

2.เลือกใช้ครีมที่มีความเหมาะสมกับสภาพผิว ตัวอย่างเช่นถ้าคุณมีผิวมัน จะต้องเลือกใช้ครีมหรือโลชั่นที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่หากมีผิวที่ค่อนข้างแห้งควรเลือกครีมที่มีส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างเช่นน้ำนมอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว

3.ทำการทดสอบก่อนใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าครีมบำรุงผิวเหมาะที่จะใช้กับผิวของคุณโดยไม่เกิดอาการแพ้ ก่อนอื่นต้องแตะครีมปริมาณเล็กน้อยที่หลังหู,ข้อพับด้านในของข้อศอกหรือใต้คาง ดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ผิวที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์หลังจาก 48 ชั่วโมง โดยแล้วสังเกตว่าเกิดอาการระคายเคืองเช่นแดงอักเสบหรือไม่ หากมีต้องหยุดใช้ครีมชนิดนั้นๆทันที แต่หากไม่เกิดความผิดปกติใดๆก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บนผิวของคุณได้อย่างปลอดภัย

4.หลีกเลี่ยงพื้นที่ผิวที่บอบบาง หลีกเลี่ยงการใช้ครีมบริเวณที่บอบบาง บริเวณรอบดวงตาและจมูกมีความละเอียดอ่อนและควรหลีกเลี่ยง หากคุณมีพื้นที่อ่อนไหวอื่น ๆ หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ด้วย บางครีมฟอกสีผิวมีสูตรที่มีจุดแข็งที่แตกต่างกันสำหรับบางพื้นที่ของร่างกายดังนั้นควรระมัดระวังในการปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน

5.ปกป้องผิวจากแสงแดด ผิวของคุณจะมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้นเมื่อใช้โลชั่นหรือครีมทาตัวขาว หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสมผิวของคุณอาจจะได้รับความเสียหายจากแสงแดดอย่างรุนแรง ดังนั้นควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป รวมทั้งปกป้องผิวของตัวคุณเองด้วยการสวมเสื้อแขนยาว,กางเกงยาวและหมวก

6.ดูแลผิวอย่างถูกต้อง ควรทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอย่างเพียงพอใช้ครีมอย่างถูกวิธี คุณจะมีผิวขาวสวยขึ้นได้อย่างปลอดภัยและขาวกระจ่างใสได้ตามแบบที่คุณต้องการ

นอกจากการใช้ครีมให้ถูกวิธีแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือครีมที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวี เพราะถึงแม้จะบำรุงผิวมาดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าไม่ใช้ครีมที่ช่วบป้องกันแดด ผิวของเราก็จะคล้ำเสีย มีริ้วรอย จุดด่างดำ และปัญหาผิวอื่นๆตามมา เรามาดูกันค่ะว่าประโยชน์ของครีมที่ช่วยกันแดดนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง

1.ปกป้องผิวจากรังสียูวี ภาวะโลกร้อนทำลายชั้นบรรยากาศของโลกส่งผลให้ความเข้มข้นของรังสียูวีนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ครีมจึงเป็นเกราะป้องกันผิวชั้นดีเลยค่ะ

2.ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย เพราะรังสียูวีเป็นตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา ริ้วรอยร่องแก้ม ผู้ที่ไม่ทาครีมจะเกิดริ้วรอยขึ้นไวกว่าผู้ที่ทาครีมเป็นประจำ

3.ป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนัง เพราะแสงแดดนั้นอาจเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังหรือมะเร็งไฝ ครีมทาตัวขาวที่มีสารกันแดดนั้นสามารถเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงนี้ได้

ครีมทาตัวขาว

4.ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ครีมกันแดดยังช่วยป้องกันผิวจากการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ที่มาจากการโดนทำร้ายของรังสียูวีได้

5.ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ โดยเฉพาะถ้าต้องออกกลางแจ้งบ่อยๆ นานๆควรเลือกครีมผสมสารกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เพื่อไม่ให้ผิวของเราคล้ำลงได้

6.ป้องกันปัญหาผิวไหม้ แสงแดดสามารถทำให้ผิวเราไหม้เกรียมได้ โดยอาการจะทำให้ผิวอ่อนแอลง ผิวลอก มีรอยแดง แสบและคัน เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง การทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเป็นประจำจะช่วยป้องกันได้มาก

7.ทำให้ผิวแข็งแรง เพราะครีมที่กล่าวมานี้นอกจากกันรังสียูวีแล้ว ยังช่วยปกป้องโปรตีนที่อยู่บนผิวเรา และรักษาคอลลาเจนบนผิว เคราตินและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับแข็งแรง เพราะไม่โดนแสงแดดทำร้าย

8.ช่วยปกป้องผิวได้ดีกว่าใส่เสื้อแขนยาว ใช่แล้วค่ะเพราะรังสียูวีนั้นทะลุผ่านเสื้อผ้าเราได้ ดังนั้นแม้จะใส่กางเกงขายาวหรือเสื้อแขนยาวก็อย่าประมาท ควรทาก่อนออกจากบ้านสม่ำเสมอ

ครีมทาตัวขาว

ประโยชน์ของครีมกันแดดนั้นมีอย่างมากมายเลยค่ะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะต้องเผชิญกับแดดเมืองไทยและเราคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดได้ทุกวัน ถ้าให้ได้ผลดีที่สุดควรทาซ้ำทุกๆ 3-4 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง ถ้าต้องลงเล่นน้ำควรเลือกครีมทาตัวขาวที่สามารถกันแดดและกันน้ำได้ เพราะจะเหนียวเหนอะหนะพอสมควร เรายังมีตัวเลือกสำหรับสาวๆที่ไม่ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆและสามารถใช้ได้ทุกวัน คือโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดและยังช่วยให้ผิวขาว PURE LOTION ของ JELLYS ก็เพียงพอแล้วค่ะ

โลชั่นผิวขาว

เคล็ดลับการทา โลชั่นผิวขาว ให้ได้ผลลัพธ์เร็วมากที่สุด

มาดูเคล็ดลับสำหรับการเลือก โลชั่นผิวขาว ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

1.รู้จักประเภทผิวของตัวเอง

รู้ว่าตัวเองมีผิวธรรมดาแห้งผิวมันหรือผิวผสม โลชั่นผิวขาว บางชนิดอาจมีส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้ผิวแห้ง หรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวบอบบางเกิดอาการแพ้และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หากใช้เป็นประจำสีผิวเกิดจากปริมาณเมลานินที่อยู่ในชั้นบนของผิวหนัง คนแต่ละเชื้อชาติที่มีสีผิวแตกต่างกันไม่ได้มีแค่เพียงชั้นผิวที่แตกต่างแต่สีผิวยังอยู่ในโครงสร้างที่แท้จริงของผิวอีกด้วย ผิวประเภทแอฟริกันและเอเชียมีแนวโน้มที่จะมีผิวที่หนาขึ้นและกระชับขึ้นซึ่งหมายความว่าผิวจะมีริ้วรอยน้อยกว่าผิวขาว ผิวสีเข้มมีแนวโน้มที่จะเก็บความชุ่มชื่นมากขึ้น  สามารถใช้ได้ผลกับทุกสีผิวเพียงแต่ในคนผิวคล้ำการที่จะเห็นผลลัพธ์อาจใช้เวลานานกว่า ดังนั้นหากใช้โลชั่นทาตัวขาวแล้วยังขาวช้ากว่าคนอื่นก็ไม่ต้องตกใจ ค่อยๆทาครีมบำรุงไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องไม่นานผิวก็จะกระจ่างใสขึ้นได้

โลชั่นผิวขาว

2.เลือกโลชั่นผิวขาวที่มีความปลอดภัย

หากคุณมีปัญหาผิวพรรณที่แพ้ง่ายหรือมีปัญหาผิวอาจปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่สามารถตรวจสอบสภาพผิวของคุณและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ แต่หาผิวของคุณมีสุขภาพดีและไม่มีอาการแพ้ใดๆก็สามารถเลือกซื้อโลชั่นที่มีความปลอดภัยและผลิตขึ้นจากส่วนผสมที่มีคุณภาพดีมาใช้ หลีกเลี่ยงครีมผิวขาวที่มีส่วนผสมอันตรายอย่างไฮโดรควินินซึ่งเป็นสารเคมีฟอกสีที่ถูกห้ามในบางประเทศ ไฮโดรควิโนมีความเชื่อว่าเป็นสารก่อมะเร็งและได้รับรายงานว่าเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง,ผิวไวแสงและติดเชื้อได้ง่ายหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นก่อนซื้อโลชั่น ต้องตรวจสอบส่วนผสมทุกครั้งว่ามีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน,ปรอทหรือสเตียรอยด์หรือไม่ หากมีต้องหลีกเลี่ยง และพยายามเลือกโลชั่นผิวขาวที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่พิสูจน์ว่าช่วยให้ผิวขาวโดยไม่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้สารเคมีที่รุนแรง ซึ่งส่วนผสมที่จะมองหา ได้แก่ สารสกัดจากราสเบอร์รี่ (arbutin) สารสกัดจากหม่อน Gigawhite กรดโคจิก,น้ำนมและวิตามินซี

โลชั่นผิวขาว

3.ใช้ครีมกันแดดเสมอ ๆ

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้คือ สีผิวที่อ่อนลงจะทำให้ผิวมีความรู้สึกไวต่อแสงมากขึ้นดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ถ้าคุณออกไปข้างนอกหรือกลางแจ้งควรใส่เสื้อแขนยาวและหมวกเพื่อปกป้องผิวใบหน้าร่างกายและแขน

โลชั่นผิวขาว

เลือกครีมกันแดด SPF 25 ขึ้นไป ที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB จากดวงอาทิตย์ รังสียูวีเอมีผลต่อความชราของผิวในขณะที่รังสี UVB ทำให้เกิดอาการไหม้แดดและอาจเป็นมะเร็งผิวหนัง

ผิวขาวเราได้มาจากหลายปัจจัยที่ช่วย แต่สำหรับคนที่ผิวขาวมาตั้งแต่กำเนิดก็ถือว่าโชคดีไปน่าอิจฉานิด ๆ แต่ว่ามันก็มีสิทธิ์ดำได้นะหากไม่ดูแลตัวเอง และเช่นกันสำหรับคนผิวดำ ผิวสีแทน สองสีก็มีโอกาสขาวได้เหมือนกัน โดยใช้โลชั่นผิวขาวทาบำรุงผิวอยู่เป็นประจำประกอบกับดูแลตัวเองในแบบอื่น ๆ ร่วมกันด้วย จะหวังพึ่งโลชั่นอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะ มาดูแลผิวให้ขาวเนียนกันเถอะ

 

ประโยชน์ของการใช้โลชั่นเป็นประจำทุกวัน

โลชั่นทาผิวถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวของผู้หญิงอย่างเราๆ เพราะไม่ว่าจะฤดูกาลไหนโลชั่นทาผิวถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ ประโยชน์ของโลชั่นทาผิวจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. ดูแลผิวที่หยาบกร้าน โดยเฉพาะผิวบริเวณข้อศอก หัวเข่า หรือผู้ที่มีผิวแห้ง ผู้ที่ทำงานหนัก ควรใช้โลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำ การทาโลชั่นเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวของเราอ่อนนุ่มลงได้

2. ทำให้ผิวชุ่มชื้น ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง มีผิวที่บอบบาง หรืออยู่ในสถานที่มีสภาพอากาศทำร้ายผิวอยู่เสมอ การพกโลชั่นติดกระเป๋าไว้ทาเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวของคุณอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นมาได้ โดยเฉพาะการทาโลชั่นหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีที่สุด

3. ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส โลชั่นผิวขาวจะช่วยทำให้ผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นมาได้เมื่อทาเป็นประจำ เพราะโลชั่นจะมีส่วนผสมของวิตามิน สารอาหารบำรุงผิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดเลือนริ้วรอย ทำให้เนื้อเยื่อของผิวเติมเต็ม ผิวของคุณจึงกระจ่างใสเปล่งประกายขึ้นมาได้

4. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การทาโลชั่นเราจะนวดคลึงบนผิวเพื่อให้โลชั่นซึมลงสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น แม้เป็นการนวดคลึงเบาๆแต่ก็ทำให้ผิวของเราผ่อนคลายลงได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นโลชั่นที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

5. ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ก่อนออกจากบ้านโลชั่นกันแดดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่ว่าเราจะบำรุงผิวดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าลืมทาโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวี ก็จะทำให้ผิวของเราคล้ำเสีย มีจุดด่างดำ มีริ้วรอยเกิดขึ้นได้

 

แนะนำ PURE LOTION ของ JELLYS โลชั่นที่ช่วยปรับให้ผิวขาวขึ้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น

ประโยชน์ของโลชั่นหลากหลายที่เราได้นำเสนอไปแล้วนั้น เราจึงขอแนะนำโลชั่นผิวขาวสูตรเฉพาะของ Jellys ที่สวยครบในหนึ่งเดียว มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอนเข้มข้นถึง20เท่า พร้อมปกป้องผิวคุณจากแสงแดดด้วย SPF 60 มีสารสำคัญหลักเช่น สารสกัดจากน้ำนม ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความชุ่มชื่น ไม่หยาบกระด้าง,กรดผลไม้ AHA ในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส ริ้วรอยและจุดด่างดำดูจางลง,กลูต้าไธโอน ทำหน้าที่ปรับเม็ดสีให้ดูจางลงและต้านอนุมูลอิสระ,วิตามินอี ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้จางลง,วิตามินบี เพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวกระชับและขาวกระจ่างใส,วิตามินซี ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น

โลชั่นผิวขาว

 

สาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำดำ คืออะไร?

1.โดนแดดทำร้ายอย่างหนัก

2.แสงไฟจากห้อง แสงจอจากคอมพิวเตอร์และมือถือ

3.โดนมลภาวะต่าง ๆ ทำร้าย ฝุ่น ควัน

4.แพ้เครื่องสำอางและสกินแคร์

5.ผิวดำ หมองคล้ำมาตั้งแต่กำเนิด

 

โลชั่นผิวขาว

สาเหตุหลัก ๆ ก็มีเท่านี้ซึ่งทุกสาเหตุที่เกิดขึ้นกับผิวเรานั้นสามารถใช้โลชั่นช่วยได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคืออย่าลืมทาครีมกันแดดร่วมด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะใครที่ทำงานกลางแจ้ง เจอแดดบ่อย ๆ รวมถึงแสงไฟด้วยนะ หรือถ้าหากจะให้ดีต่อผิวจริง ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอกแต่ผิวก็ยังต้องได้รับการบำรุงปกป้อง ควรหาครีมกันแดด

โลชั่นควรทาเวลาไหน ถึงจะขาวเห็นผลได้จริง

ก่อนอื่นจะต้องบอกเลยว่า ครีมที่ทาแล้วขาวทันทีนั้นไม่น่าไว้วางใจเลยเพราะเสี่ยงมากที่จะมีส่วนประกอบของสารอันตรายต่อผิวอย่างรุนแรง และถ้าขาวอีกประเภทคือพอกให้ขาววอกเป็นกระดาษเอสี่ไปเลย ซึ่งก็เหมือนกับการโปะลองพื้นมากกว่าการทาครีมนะ  โลชั่นผิวขาวส่วนมากจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการบำรุงผิวด้วยพร้อมกัน ซึ่งจะใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติได้ เช่น 7 วัน 14 วัน ก็ว่ากันไปตามแต่ละสูตรของโลชั่นเลย ใครชอบยี่ห้อไหนก็ให้เลือกดี ๆ ให้เหมาะกับสภาพผิวตนเองด้วยนะ ในไทยเรามีโลชั่นบำรุงผิวขาวให้เลือกเยอะมากแทบจะตาลายกันเลยทีเดียว

โลชั่นผิวขาว

เวลาที่ควรทาโลชั่นเพื่อให้ได้ประสิทธิ์ภาพในการบำรุงเต็มที่คือ ทาทุกเช้า เย็น ก่อนนอน เลย ผิวของเราจะได้รับการบำรุงตลอด หรือสำหรับคนที่ผิวแห้งอาจจะต้องพกโลชั่นและทาได้ตามเวลาที่ต้องการเลย ไม่ได้ผิดอะไรที่เราจะทาบ่อย ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน

 

ระยะเวลาในการปรับผิวให้ขาว

จะขาวทันทีไม่มีแน่ ๆ แต่ถ้าอยากจะได้ชาวแน่ ๆ นั้นมีแน่นอน แต่มันจะต้องใช้เวลาสักหน่อย เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งเวลาใช้โลชั่นนั้นจะมีบอกไว้บางยี่ห้อว่าขาวภายในกี่วัน แต่ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย เพราะการปรับสภาพผิว เม็ดสีผิว ของแต่ละคนต่างกันไป เพราะแบบนี้โลชั่นจึงต้องมีหลายสูตร เพื่อจะให้เลือกที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนนั่นเอง

โลชั่นผิวขาว

นอกจากการใช้โลชั่นผิวขาวแล้วก็ยังมีการออกกำลังกาย การทานอาหาร ผัก ผลไม้ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวด้วยนะ ถ้าไม่สนใจเลยอาจจะทำให้ผิวไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และยิ่งใครทางอาหารขยะบ่อย ๆ จะเสี่ยงทำให้สุขภาพเสียผิวแย่มากเลย จะทานอะไรก็เลือกดี ๆ สรุปแล้วก็ใช้โลชั่นบำรุงผิวทาให้ขาวเนียนแต่ก็ต้องไม่ลืมบำรุงอาหารผิวและออกกำลังกายด้วยนะ